ย้ายเข้าคอนโดครั้งแรก เตรียมตัวอย่างไร?
ในวงจรชีวิตคนๆ หนึ่งน่าจะมีเหตุการณ์จำเป็นต้องโยกย้ายที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นบ้างอย่างน้อยก็ซักครั้งสองครั้ง ย้ายจากนอกเมือง ย้ายจากต่างประเทศ ย้ายตามที่ทำงาน ย้ายเพื่อเรียน ย้ายออกมาอยู่เอง ฯลฯ หรือนึกภาพว่าเราเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วไปเที่ยวต่างประเทศซักอาทิตย์หนึ่ง คนทั่วไปก็มักพกนู่นนี่ใส่กระเป๋าก็เต็มความจุ 20-30 กิโล ยังใช้เวลาเตรียมข้าวของไม่น้อย ทำเอาหอบเหมือนกันนะคะ
แต่การแพ็คกระเป๋าเก็บของ เพื่อไปเริ่มต้นใช้ชีวิตยังถิ่นฐานใหม่เลย เหนื่อยกว่านั้นเยอะ ยิ่งใครมีประสบการณ์ต้องย้ายเข้าย้ายออกบ่อยๆ คงทราบกันดีว่าการย้ายบ้านเป็นงานช้างเอาเรื่องทีเดียวเลยค่ะ
อย่างไรก็ดี กระแสโลกปัจจุบัน การเติบโตของอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะ ผู้คนเริ่มมีบ้านเพื่ออยู่อาศัยมากกว่าหนึ่งหลังขึ้นไป ใช้พื้นที่เล็กมากขึ้น อัตราคนโสดเพิ่มมากขึ้น บ้านหลังใหญ่จึงอาจไม่สะดวกในชีวิตประจำวันเสมอไป หลายท่านจึงเริ่มปรับการใช้ชีวิตแบบขึ้นอาคารสูงบ้าง
ถ้าเช่นนั้นแล้ว อสังหาจึงขอแนะนำวิธีเตรียมตัวย้ายเข้าคอนโดครั้งแรก เพื่อให้ห้องชุดของเราพร้อมสรรพต่อการพักอาศัยที่สมบูรณ์แบบค่ะ
1.ทำความเข้าใจให้ดีว่าห้องชุดที่เราซื้อนั้น มีอะไรในห้องบ้างแล้ว
ลองกลับไปเปิดสัญญาจะซื้อจะขาย ดูรายละเอียดกันอีกซักรอบว่าในนั้นมีรายละเอียดอะไรบ้าง เฟอร์นิเจอร์บิ๊วอิน เช่น ชุดเคาท์เตอร์ครัว ตู้เสื้อผ้า ตู้รองเท้า ฯลฯ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เช่น เตียง โต๊ะทำงาน โต๊ะทานข้าว ฯลฯ เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า เครื่องทำน้ำอุ่นน้ำร้อน ฯลฯ เพื่อช่วยตัดทอนว่าเราไม่จำเป็นต้องซื้อสิ่งใดแล้ว และสิ่งใดยังจำเป็นต้องซื้อเพิ่ม
นอกจากนี้ เราไม่ควรมองข้ามเรื่องกำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด หรือควรทราบล่วงหน้าว่าเราจะโอนบ้านหลังนี้เมื่อไหร่ เพราะ ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการวางแผนค่าใช้จ่ายนั่นเองค่ะ ลำพังค่าใช้จ่ายโครงการ ณ วันโอนฯ ก็ถือว่าสูงแล้ว ไหนจะต้องเตรียมซื้อข้าวของ ค่าขนย้าย และอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าไม่วางแผนการเงินดีๆ อาจทำให้สภาวะหมุนเงินซื้อบ้านของเราสะดุดกลางคันได้ค่ะ
2.ทำ Check List สิ่งของ
หลังจากรู้จำนวนเฟอร์นิเจอร์แพ็คเกจที่ได้รับมาพร้อมห้องชุดแล้วนั้น ลองมาทำ Check List แยกแยะเพิ่มอีกนิด แบ่งเป็น
- สิ่งของที่มีอยู่แล้ว – อาจจะย้ายมาจากบ้านหลังเก่า สามารถใช้ต่อได้โดยไม่ต้องซื้อใหม่ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว ฯลฯ
- สิ่งของที่จำเป็นต้องซื้อ – จำเป็นต้องมีติดบ้าน เช่น ม่าน ฟูกที่นอน อุปกรณ์ทำความสะอาด กล่องยาสามัญ ตู้เย็น ฯลฯ
- สิ่งของที่ไม่จำเป็นซื้อทันที – ส่วนใหญ่จะเป็นของตกแต่งเพิ่มความสวยงาม ไว้เดินหาที่ถูกใจแล้วค่อยๆ ทยอยซื้อได้ เช่น กรอบรูป ของสะสม ฯลฯ
เมื่อทราบปริมาณสิ่งของที่ต้องใช้แล้วนั้น อย่าลืมคิดถึงการว่าจ้างรถขนของ ค่าน้ำมันสำหรับการขนย้ายด้วยนะคะ
3.สำรวจเงินในกระเป๋า และวางแผนการใช้จ่าย
เมื่อจัดหมวดหมู่สิ่งของจำเป็น สิ่งของใช้ซ้ำ สิ่งของตกแต่งได้แล้วนั้น ให้สำรวจสินค้าไว้หลายยี่ห้อหลายแบบ เพื่อเปรียบเทียบดีไซน์และคุณภาพที่คุ้มราคาที่สุดค่ะ แน่นอนว่าควรจัดสรรให้ค่าใช้จ่ายโครงการ ณ วันโอนกรรมสิทธิ์คอนโดเสร็จสิ้นไปก่อน จึงค่อยเงินแบ่งส่วนที่เหลือสำหรับการย้ายบ้านและตกแต่งห้องชุดค่ะ
จากประสบการณ์ตรง หลายท่านชอบเดินดูของตามห้างร้านเฟอร์นิเจอร์ ตลาดจตุจักร เพื่อได้สัมผัสสิ่งของและเห็นภาพจริง หรือ หลายท่านขอเลือกใช้บริการสั่งของออนไลน์ส่งตรงถึงบ้าน ก็ได้ผลดีทั้งสองแบบค่ะ เตือนไว้นิดนึงนะคะว่าให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบช็อปทั้งหมด ดูของให้ทั่วถึงจริงๆ ค่อยตัดสินใจซื้อ อย่างน้อยก็ไม่พลาดซื้อของแพงแล้วมาเสียดายภายหลังนะคะ
อีกอย่างหนึ่ง หากเรามีแผนตกแต่งห้องชุดแบบว่าจ้าง Interior Designer ออกแบบให้แบบครบวงจรโดยเราไม่ต้องลงมือทำเอง ควรเริ่มคุยที่ขั้นตอนนี้เลย เพื่อดูดีไซน์ ราคาค่าออกแบบและการผลิตติดตั้งที่หน้างานค่ะ ปัจจุบันนี้มีหลายบริษัท ค้นหาได้ทั่วไปตามอินเตอร์เนท เลือกที่ผลงานถูกใจ ราคาเป็นมิตรได้เลยค่ะ
4.เตรียมสั่งของ
เมื่อเราตัดสินใจเลือกสินค้า เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้ภายในห้องชุดได้แล้วนั้น ถึงเวลาต้องเริ่มสั่งซื้อกันแต่เนิ่นๆ เพื่อให้พร้อมสำหรับการเข้าพักอาศัยได้ทันทีที่เราโอนบ้านหรือคอนโดเสร็จ เนื่องจากสิ่งของบางอย่างจะใช้ระยะเวลาในการจองคิว ผลิต และติดตั้ง โดยเฉพาะงานว่าจ้าง Interior Designer ตกแต่งห้องชุด ซึ่งจะประกอบไปด้วยเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินหลายอย่าง เช่น ชุดครัว ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวี ต้องใช้เวลานานประมาณ 30-60 วัน หรือการสั่งซื้อของจากร้านค้าทั่วไป เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ก็ใช้เวลาจัดส่งสินค้า 2-3 วันเช่นกัน
ในอีกนัยหนึ่ง หากเราตกแต่งบ้านเพื่อการลงทุนด้วยแล้ว ถ้าเราดำเนินการแต่งห้องให้พร้อมเข้าอยู่ได้เร็วเท่าไหร่ ก็เป็นโอกาสปล่อยเช่า ปล่อยขายได้เร็วกว่าคนอื่นๆ นะคะ
ควรจัดสรรให้ค่าใช้จ่ายโครงการ ณ วันโอนกรรมสิทธิ์คอนโดเสร็จสิ้นไปก่อน จึงค่อยเงินแบ่งส่วนที่เหลือสำหรับการย้ายบ้านและตกแต่งห้องชุด
5.Big Cleaning ทำความสะอาดครั้งใหญ่
ก่อนย้ายสิ่งของใดๆ เข้าคอนโดนั้น เราสามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่โครงการทำความสะอาดฝุ่นหรือความสกปรกที่เกิดขึ้นจากการที่ช่างเก็บงานแก้ไขเมื่อครั้งที่เข้าตรวจสภาพห้องชุด (Inspection) ได้ค่ะ ควรให้ทำความสะอาดทันทีหลังจากแก้ไขเสร็จ แล้วปิดห้องไว้เลยนะคะ
หลังจากนั้น เมื่อเริ่มโยกย้ายสิ่งของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เข้าแล้ว ควรทำความสะอาดใหญ่อีกซักที ตามพื้น ซอกมุม ภายในตู้ลิ้นชัก อุปกรณ์เครื่องครัว ฯลฯ ก่อนเริ่มใช้งานจริง ถ้าหากเราไม่ถนัดทำความสะอาดเอง ให้ลองสอบถามโครงการ ว่ามีบริการแม่บ้านสำหรับลูกบ้านในคอนโด หรือว่าจ้างบริษัททำความสะอาดมืออาชีพมาดำเนินการให้ก่อนเข้าพักอาศัยได้หรือไม่
ปัจจุบันนี้ Developer แนวหน้าของไทย ต่างก็มีบริการครบวงจรใส่ใจความต้องการของลูกบ้านอยู่หลายเจ้าเลยนะคะ เพื่อสุขอนามัยที่ดีและสร้างบรรยากาศบ้านให้น่าอยู่มากขึ้นค่ะ
6.ศึกษาคู่มือพักอาศัย และกฎระเบียบข้อบังคับของนิติฯ
ใช่ค่ะ หลังจากจัดการธุระจัดเก็บย้ายบ้านย้ายสิ่งของในห้องชุดของเราแล้ว อย่าลืมแวะกลับมาอ่านคู่มือที่พักอาศัยที่โครงการมอบให้พร้อมกล่องกุญแจกันซักหน่อยนะคะ ว่ามีเนื้อหา กฎเกณฑ์ วิธีการปฏิบัติอะไรบ้าง
หากเราย้ายเข้าเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว จัดวางและเคลื่อนย้ายได้ทั่วไป ควรแจ้งนิติบุคคลให้รับทราบ เพื่อขออำนวยความสะดวกกับการใช้ลิฟต์ขนของค่ะ
แต่ถ้าเราตกแต่งห้องค่อนข้างมากแบบ จำเป็นต้องใช้คนงานก่อสร้างจากภายนอกด้วยนั้น เราควรทำความเข้าใจและควรปฏิบัติตามกฎการตกแต่งห้องชุดอย่างยิ่ง ควรต้องยื่นแบบงานตกแต่งให้นิติบุคคลตรวจสอบว่า การตกแต่ง ขุด เจาะ รื้อ ทุบ ต่อเติม จนพรุนไปทั้งห้องของเรานั้นกระทบกับงานระบบที่ซ่อนอยู่ในฝ้าผนัง หรือส่วนกลางใดๆ หรือไม่ รวมถึงกำหนดเวลาทำการตกแต่ง การแลกบัตรคนงานเข้าออกโครงการ การวางเงินประกัน อาจดูหลายขั้นตอนไปบ้าง แต่อาคารชุดเป็นพื้นที่พักอาศัยของสังคมส่วนรวม จึงควรศึกษาคู่มือให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถพักอาศัยได้อย่างมีความสุขและไม่ทำความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้านโดยมิได้ตั้งใจค่ะ
การย้ายเข้าคอนโดครั้งแรก ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อถ้าเราเตรียมตัวดีๆ รู้จักวางแผนอย่างเป็นระบบ ก็น่าตื่นเต้นและสนุกไปกับการเริ่มต้นชีวิตแบบคนคอนโดกันนะคะ
“Good live, Better laugh, Best love” ไม่ใช่สิ่งยาก เพียงแค่เราเปิดใจมองสิ่งรอบตัว และรักสิ่งรอบตัวเราค่ะ