Ep 2. เลือกของเล่นแมวอย่างไร ให้เสริมสร้างพัฒนาการ
การเลี้ยงสัตว์แสนรักของเราให้มีความเป็นอยู่ที่ดี นอกจากเรื่องอาหารการกิน ที่หลับที่นอนแล้ว อย่างหนึ่งที่พลาดไม่ได้ คือ การรู้จักเสริมสร้างพัฒนาการและทักษะให้กับน้องๆ ด้วยค่ะ
สัตว์เลี้ยงในบ้านอย่างน้องแมวมีสัญชาตญาณการล่าเหยื่อตามธรรมชาติอยู่ในตัว หากแต่เราเลี้ยงระบบปิดภายในบ้านหรือคอนโด ไม่ได้ให้น้องไปเที่ยวเล่นทำกิจกรรมการล่าบ้าง จะทำให้น้องเกิดอาการเครียดได้ง่ายๆ เชียวค่ะ ดังนั้น วิธีการแก้ไขที่ดีเหมาะสำหรับทาสแมวทั้งหลายสามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้ คือ การสรรหาของเล่นมาให้น้องได้เล่นบ้าง ได้ทั้งความสนุก พัฒนาการ สร้างทักษะของสัตว์เลี้ยงตามธรรมชาติของมัน แฮปปี้ทั้งเจ้าเหมียวและเจ้าของแน่นอนค่ะ
วิธีการเลือกของเล่นที่เหมาะกับแมวของเรา?
การเลือกซื้อของเล่นหรือสินค้าใดๆ เรามักเริ่มต้นจากการค้นหา “ของเล่นแมว” ทางอินเตอร์เนท รับรองค่ะว่า…เราจะพบร้านค้าออนไลน์เสนอสินค้าเป็นร้อยๆ อย่าง แน่นอนค่ะ…ทุกชิ้นเป็นของเล่น แล้วเราจะเลือกชิ้นไหนดี? ราคาถูกแพงเท่าไหร่? คุณภาพดีมั้ย? มีประโยชน์อย่างไร?
ของเล่นช่วยลดอาการเครียด ได้ทั้งความสนุก พัฒนาการ สร้างทักษะของสัตว์เลี้ยงตามธรรมชาติ
ดังนั้น เราจึงควรศึกษาก่อนว่าสิ่งที่สัตว์เลี้ยงของเราหรือเจ้าแมวน้อยต้องการมีอะไรบ้าง อะไรที่เล่นได้หรือไม่ได้ จากหลักการเลือกของเล่นดังต่อไปนี้
1. เลือกจากลักษณะทางกายของแมว
ไม่ว่าจะเป็นขนาด รูปร่าง น้ำหนัก แล้วค่อยเลือกของเล่นที่ไซส์เล็กกว่าหรือใกล้เคียงกับน้องแมว ถ้าของเล่นมีขนาดใหญ่เกินไป น้องอาจมองเห็นว่าเป็นศัตรูแล้วเปรียบตัวเองเป็นเหยื่อซะเอง การเล่นจะกลับกลายเป็นการต่อสู้แทนซะงั้นค่ะ
2. ศึกษาและสังเกตุนิสัยน้องแมวของเรา
น้องแมวแต่ละตัวมีนิสัยที่แตกต่างกัน เราลองสังเกตุว่าน้องแมวของเรานั้นชื่นชอบอะไรเป็นพิเศษ อาจจะทดลอง DIY ของเล่นขึ้นก่อน จับจุดที่ใช่ แล้วค่อยเลือกซื้อของเล่นประเภทนั้นๆ ค่ะ
3. ความปลอดภัยของชิ้นของเล่น
เราต้องตรวจสอบ หรือ Inspect ของเล่นให้ดีๆ ก่อนซื้อ จนมั่นใจว่าไม่มีกาว สีหลุดลอก มุมแหลมคม งดเว้นยางรัด หนังยาง ลวด กิ๊บติดผม ถุงพลาสติกโดยเด็ดขาด เพราะธรรมชาติของแมวเมื่อจับอะไรได้จะใช้ฟันกัดแทะ เราจึงต้องระวังขนาดของเล่นที่น้องไม่สามารถกินเข้าปากหรือเข้าสู่ร่างกายได้ แม้กระทั่งพ้อยเตอร์เลเซอร์ (แสงสีเขียวสีแดง) ก็มีผลต่อการมองเห็นของน้องแมวได้เช่นกัน เพราะเพ่งจุดโฟกัสมากเกินไป ทั้งสับสน แถมจับต้องไม่ได้ค่ะ
4. Texture หรือพื้นผิวของเล่น
แนะนำว่าควรเป็นแบบอ่อนนุ่มให้น้องกัดเข้าฟันง่ายๆ หรือสิ่งที่ง่ายต่อการข่วนลับเล็บ ชนิดยิ่งข่วนยิ่งมันส์ จำพวกขนนก หนัง กระดาษลัง เชือก ผ้า
ประเภทของเล่นแมว มีอะไรบ้าง?
ถึงเวลาช้อปปิ้งของเล่นเอาใจเจ้าเหมียวนายน้อยของเราแล้ว มาดูกันค่ะว่าของเล่นแบ่งเป็นกี่ประเภท แต่ละอย่างมีประโยชน์อย่างไรกันบ้างเลือกซื้อทั้งทีต้องเน้นคุ้มสุดคุ้ม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของเจ้าแมวคู่ใจ ได้ทั้งความสนุกและประโยชน์จัดเต็มกันนะคะ
1. Solo Toy
ของเล่นที่น้องสามารถเล่นได้ด้วยตัวเอง ในระหว่างวันที่เราออกไปทำงานไม่อยู่บ้าน หากเราวางของทิ้งไว้บ้างตามจุดต่างๆ เจ้าเหมียวก็สามารถสร้างความเพลินเพลินให้กับตัวเองได้ง่ายๆ เช่น ลูกบอลใส่แบตเตอรี่แขวนกับโต๊ะ ประตู ผนัง ให้น้องได้กระโดดไล่จับตามนิสัยความอยากรู้อยากเห็น
2. Interactive Toy
ของเล่นเสริมความสัมพันธ์เจ้าของกับสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นของเล่นที่มีวางขายเยอะมากที่สุดจำพวก ก้านขนนก รีโมทหนูปลอม ให้น้องแมวได้สตอล์กเกอร์ ซุ่ม จับ ตะครุบ วิ่งเล่นออกกำลังกายไปรอบๆ สนุกไปพร้อมกับเราค่ะ แนะนำว่าเราควรเล่นกับแมวประจำ 2 ครั้งต่อวัน ครั้งละ 10-15 นาที โดยช่วงเวลาเล่นดีที่สุด คือ ช่วงเช้าและช่วงเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่สอดคล้องกับธรรมชาติการออกล่าเหยื่อของสัตว์นั่นเองค่ะ
3. Food puzzle
เกมล่าหาอาหาร เป็นอีกหนึ่งของเล่นที่ช่วยกระตุ้นนิสัยช่างสำรวจ ความขี้เล่น อยากลองจับลองดม แถมเมื่อค้นหาเจอแล้วยังได้อาหารเป็นรางวัลด้วย หากน้องแมวบ้านไหนน้ำหนักเกินพิกัดไปแล้ว เราลองปรับเปลี่ยนการให้อาหารหรือขนมแมวด้วยของเล่นประเภทนี้บ้างก็ได้ค่ะ ให้น้องได้ขยับก่อนกินซักหน่อยก็ช่วยลดหุ่นได้อยู่นะคะ
4. Aromatherapy
กลิ่นบำบัดด้วยหญ้า Catnip แบบออร์กานิค หรือที่รู้จักกันว่า “กัญชาแมว” ซึ่งเป็นหญ้าหอมมีกลิ่นที่ช่วยผ่อนคลาย หรือกระตุ้นความตื่นเต้นร่าเริงของน้องแมวได้ดี โดยสัญชาตญาณแมวจะรับรู้กลิ่นได้ไว ดังนั้นเราจะซ่อนหญ้าในของเล่นอย่างหมอน ลูกบอล ให้น้องแมวได้ค้นหา จับมานั่งเล่นนอนกอด ช่วยผ่อนคลายได้ดีนักเชียวค่ะ
5. Comfort Zone
เป็นของเล่นที่สร้างพื้นที่ส่วนตัวให้น้อง เพื่อความรู้สึก Safe & Relax เช่น คอนโดแมว ซึ่งของเล่นประเภทนี้ยังรวมฟังก์ชั่นอื่นๆ ไว้ด้วยเสมือนเฟอร์นิเจอร์แมวให้ปีนป่ายได้ มีโครงสร้างสูงเป็นชั้นๆ เพราะธรรมชาติแมวมักชอบที่สูงเพื่อความปลอดภัย มีเชือกลับเล็บพันรอบเสาให้น้องข่วนเล่น
หรือว่าจะเป็น อุโมงค์แมว ที่นอนแมว กล่องซ่อนตัวก็ได้ เพื่อให้น้องแมวได้พักผ่อนในพื้นที่ของตัวเอง ของเล่นชนิดนี้ช่วยลดความเครียดของสัตว์เลี้ยงได้อย่างดีค่ะ
เราควรเล่นกับแมวประจำ 2 ครั้งต่อวัน ครั้งละ 10-15 นาที โดยช่วงเวลาเล่นดีที่สุด คือ ช่วงเช้าและช่วงเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่สอดคล้องกับธรรมชาติการออกล่าเหยื่อของสัตว์
อย่างไรซะ…น้องแมวก็เหมือนเด็กๆ เล่นแป๊ปๆ ก็เบื่อหนีไปนอนเป็นประจำ ดังนั้นวนๆ ของเล่นบ้าง เก็บซ่อนไว้แล้วค่อยนำมาเล่นภายหลังเรื่อยๆ ก็ได้ค่ะ
ของเล่นเหล่านี้ใช้เลี้ยงน้องแมวระบบปิดในคอนโดได้อย่างไม่ยากเลยค่ะ แนะนำให้ศึกษาพฤติกรรมเจ้าเหมียวเป็นหลักค่ะ มิเช่นนั้นของเล่นแมวได้รกเต็มบ้าน เดี๋ยวบรรดาทาสอย่างเราๆ จะไม่มีที่อยู่แทนนะคะ