นายหน้าคอนโด อาชีพนี้ทำอะไร?
อาชีพนายหน้ามีอยู่ทุกวงการค่ะ ตั้งแต่ขายของ ขายรถ ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ ซื้อขายหุ้น แต่ที่โดดเด่นและได้ยินเข้าหูที่สุด หนีไม่พ้น “นายหน้าอสังหาฯ” ค่ะ
ซึ่งอาชีพนายหน้าวงการอสังหาฯ เองนั้น ก็ยังแบ่งได้อีกหลายประเภท เช่น นายหน้าค้าที่ดิน บ้านเดี่ยว ตึกแถว อาคารพาณิชย์ ออฟฟิศสำนักงาน แต่ที่ง่าย เร็ว ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เป็นที่นิยม และเป็นทรัพย์ที่พบมากที่สุดในเมืองกรุง คือ นายหน้าคอนโดมิเนียม
เอาเข้าจริงแล้ว…นายหน้าคอนโดเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เข้าง่าย ออกง่ายสูงทีเดียว แม้วันนี้จะมีคนเลิกไป แต่ก็มีเอเจ้นท์หน้าใหม่พร้อมเกิดขึ้นทุกวัน วนเวียนอยู่เช่นนี้ สาเหตุก็เพราะ นายหน้ามีความอิสระในการบริหารจัดการตนเองนั่นเองค่ะ จะขายได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความขยันและวินัยของตนเองล้วนๆ
สงสัยกันมั้ยคะ? ว่าแล้วทำไม ถึงยังมีคนพร้อมเป็นเอเจ้นท์เสมอ ตกลงแล้วอาชีพนี้ทำอะไร? ยากหรือง่ายแค่ไหนกันแน่?…
ดังนั้นในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจอาชีพ “นายหน้าคอนโด” กันค่ะ
นายหน้าคือใคร?
“นายหน้า” ที่เรามักเรียกทับศัพท์ว่า โบรกเกอร์ (Broker) หรือ เอเจนท์ (Agent) ก็ตามแต่ คือ ตัวกลางการขายระหว่างฝ่ายหนึ่ง เรียกว่า “ผู้ขาย” กับอีกฝ่ายหนึ่ง เรียกว่า “ผู้ซื้อ” ไปจนถึงการทำสัญญาและซื้อขายสำเร็จเสร็จสิ้น โดยได้รับค่าบำเหน็จ หรือ คอมมิชชั่น (Commission) เป็นผลตอบแทน ถ้าเข้าใจง่ายๆ ก็เหมือนเราได้รับส่วนแบ่งเปอร์เซนต์ (%) จากยอดขายตามตกลงค่ะ
หน้าที่ของนายหน้า
โดยสรุปหน้าที่หลักๆ ของเอเจนท์ คือ การหา… หาทั้งสินค้า (Supply) นั่นก็คือ ห้องชุดที่ปล่อยขายปล่อยเช่า และ หาทั้งลูกค้า (Demand) นั่นก็คือ ผู้ซื้อและผู้ขาย ตลอดจนไปถึงการดูแลทำสัญญา เอกสารใดๆ จนการซื้อขายจบสิ้นเรียบร้อยดี
ในกรณีการซื้อขายทรัพย์นั้นๆ อยู่ภายใต้การดูแลของเราแต่เพียงผู้เดียว หรือ “Sole Agent” นั่นหมายความเราจะได้รับค่าคอมมิชชั่นเต็มๆ 100%
แต่ถ้าหากเราขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไป ไม่มีสต็อคแหล่งสินค้าหรือลูกค้าที่ถูกต้องตรงกัน ในกรณีเช่นนี้ เหล่าบรรดานายหน้านิยมจับมือกัน ช่วยกันจับคู่สินค้าและลูกค้าที่ต่างฝ่ายต่างมีในมือ ซึ่งลักษณะเช่นนี้ ก็มีชื่อเรียกเฉพาะเหมือนกันนะคะ
“นายหน้าติดทุน” คือ บุคคลผู้รู้จักและนำพาเจ้าของเงิน ถ้าเปรียบกับแวดวงคอนโด ทุนก็คือลูกค้าหาห้องมือสอง หรือ หาห้องเช่า ผู้ซึ่งมีกำลังซื้อ
“นายหน้าติดที่” คือ บุคคลผู้รู้จักกับเจ้าของทรัพย์ เช่นกันค่ะในแวดวงคอนโด ที่ก็คือเจ้าของห้องชุดที่ต้องการขายต่อ หรือปล่อยห้องเช่านั่นเอง
ประกอบกับช่องทางการติดต่อทั้งสองฝ่ายมาพบกันนั้น ยุคสมัยนี้ง่ายยิ่งกว่าสิ่งใด คนหนึ่งโพสต์ขาย คนหนึ่งโพสต์หา เมื่อทั้งสองฝ่ายแมชต์กันได้ ก็เป็น “Co-Agent” ระหว่างกัน
ในกรณีเช่นนี้ ค่าคอมมิชชั่นที่ได้รับก็จะแบ่งกันคนละครึ่งๆ 50-50 %
นายหน้ามีความอิสระในการบริหารจัดการตนเอง จะขายได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความขยันและวินัยของตนเองล้วนๆ...
ผลตอบแทน หรือ ค่าคอมมิชชั่น
นายหน้าหรือเอเจ้นท์นั้น มีสิทธิ์ได้รับค่าบำเหน็จตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 846 ว่าด้วย “ถ้ากิจการอันได้มอบหมายแก่นายหน้านั้น โดยพฤติการณ์เป็นที่คาดหมายได้ว่า ย่อมทำให้แต่เพื่อจะเอาค่าบำเหน็จไซร้ ท่านให้ถือว่าได้ตกลงกันโดยปริยายว่ามีค่าบำเหน็จนายหน้า ค่าบำเหน็จนั้นถ้ามิได้กำหนดจำนวนกันไว้ ท่านให้ถือว่าได้ตกลงกันเป็นจำนวนตามธรรมเนียม”
ดังนั้น เรามาดูมาตรฐานตัวเลขค่าคอมมิชชั่นกันค่ะ ว่าตลาดอสังหาตอนนี้ยืนราคาที่เท่าไหร่
- 3% ของราคาซื้อขายห้องชุด เป็นตัวเลขมาตรฐานสำหรับ Resales ขายต่อคอนโดมือสอง หรือเป็นไปตามที่เอเจ้นท์และผู้ขายตกลงกันเรียบร้อยดี
- 1 เดือนของราคาเช่าห้องชุด เป็นตัวเลขมาตฐานสำหรับห้องชุดปล่อยเช่า เอเจ้นท์จะได้รับค่าตอบแทนเท่ากับค่าเช่า 1 เดือนของราคาที่ปล่อยเช่าได้
จะเห็นได้ว่า ผลตอบแทนที่ได้รับขึ้นอยู่กับราคาซื้อขายหรือปล่อยเช่า ยิ่งเราปิดการขายห้องชุดมูลค่าสูงได้เท่าไหร่ เราก็ยิ่งได้รับค่าเหนื่อยสูงตามเท่านั้นค่ะ
อาชีพนี้ไม่ยากและไม่ง่าย... เพราะ ปัญหาหน้างานจัดการได้ โดยอาศัยประสบการณ์และการหาความรู้รอบตัวเสมอ
ถ้าถามว่าอาชีพนี้ยากหรือไม่? คำตอบคือ “ไม่ยากและไม่ง่าย” ค่ะ คำตอบอาจดูเป็นกลางๆ ไปซักนิด เพราะ ความยากง่ายของแต่ละคนไม่เท่ากันนั่นเอง งั้นเราไปเจาะลึกอาชีพนี้กันต่ออีกหน่อยดีกว่าค่ะ
ข้อดีของอาชีพนายหน้า
1. ลงทุนน้อย
นายหน้าคือตัวกลาง สิ่งที่ต้องมีคือ “ทักษะ” มากกว่าเงินทุน ทักษะครบชุดทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน เจรจา ต่อรอง ภาษา บุคลิกภาพ ดังนั้นสิ่งที่ต้องลงทุนไม่ใช่เม็ดเงินที่เราต้องไปเสียทรัพย์ซื้อคอนโดเป็นล้านๆ เหมือนนักลงทุนใดๆ ค่ะ เริ่มจากความสามารถส่วนตัวของเราเองล้วนๆ เท่านั้น
หากจะมีบ้างก็จำพวก ค่าโทรศัพท์ ค่ารถ ค่าอินเตอร์เนท ซึ่งล้วนเป็นค่าใช้จ่ายพื้นฐาน หากเราปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็เรียกทุนคืนได้ไม่ยากค่ะ
2. ความเสี่ยงต่ำ
แม้ในตลาดเราจะมีคู่แข่งร่วมอาชีพอยู่จำนวนมาก แต่อาชีพนี้ขึ้นอยู่กับความขยันและตั้งใจของตัวเราเอง ตั้งแต่การติดตามลูกค้า เก็บรายการสินค้า (Sales Listing) การทำการตลาด ฯลฯ หากใครมีมากกว่าย่อมได้เปรียบ ให้ต่อยอดเป็นได้ทั้งอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมก็ได้ ที่สำคัญอาชีพนี้ไม่ได้ผูกมัด ไม่มีเจ้านายที่ไหนมาไล่ออกได้ นอกจากตัวเราเองยอมแพ้แล้วละเลิกไปซะก่อนค่ะ
3. ไม่จำเจน่าเบื่อ
งานนี้สามารถทำที่ไหนก็ได้ แค่มีมือถือ คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เนท ก็สามารถประสานงานได้ทุกที่ค่ะ อีกทั้งยังได้ไปสถานที่ต่างๆ พบปะคนเยอะ ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ให้เราต่อยอด Connection หรือองค์ความรู้ด้านอสังหาฯ ได้ดี
4. งานไม่ซับซ้อน
อาชีพนายหน้าคอนโดไม่มีความยุ่งยากทั้งทางขั้นตอน และเอกสาร ซึ่งใครๆ ก็สามารถเรียนรู้ได้ตามหลักสูตรตายตัว อีกทั้งกระบวนการซื้อขายหรือปล่อยเช่าคอนโดไม่ยืดเยื้อ ประมาณ 1-3 เดือน/เคส ขึ้นอยู่กับการจัดการลูกค้าของเรา อีกทั้งยังสามารถดูแลลูกค้าได้หลายเคสในคราวเดียว
ข้อเสียของอาชีพนายหน้า
1. ไม่เป็นเวลา
เพราะ การทำงานสื่อกลางระหว่างบุคคล 2 ฝั่ง โดยขั้นตอนแล้วนั้น ผู้ซื้อ-ผู้ขาย ไม่จำเป็นต้องพบหน้ากัน เพื่อประโยชน์ในการต่อรองหรือเจรจาใดๆ ประเด็นนี้ในฐานะตัวกลาง เราสามารถแก้ไขได้โดยวิธีการบริหารเวลา บ่อยครั้งที่เอเจ้นท์ต้องนัดพบลูกค้าหลังเลิกงาน หรือ วันหยุดเสาร์อาทิตย์ แต่อย่างไรนั่นก็ถือเป็นโอกาสทางการขายดีๆ ค่ะ
2. ปัญหาเฉพาะหน้า
ข้อนี้เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นคำถามที่ลูกค้าสอบถาม การขอคำแนะนำ ปัญหาหน้างานจากการเข้าเยี่ยมชมโครงการและห้องชุด ฯลฯ แท้จริงแล้วปัญหาเหล่านี้ เราสามารถจัดการได้ง่ายๆ โดยอาศัยประสบการณ์และการหาความรู้รอบตัวเสมอค่ะ เพื่อสามารถตอบคำถามหรือให้คำแนะนำลูกค้าได้ทันท่วงที หากพบปัญหาหน้างาน ก็ทราบทางหนีทีไล่ รู้จักผู้ติดต่อหรือขอความช่วยเหลือจากนิติฯ
กล่าวคือ รู้จักการจัดการปัญหาได้เป็นระบบ รู้หนทางการแก้ไขปัญหาที่ได้ผลจริง เรียนรู้จากเคสลูกค้าเก่าๆ แล้วปรับใช้ให้เหมาะสม ก็หมดปัญหาใดๆ ให้ต้องกังวลแล้วค่ะ
คุณสมบัติของนายหน้า
- ใจรักบริการ คือ จุดขายสำคัญที่สุดที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า และเลือกใช้บริการเรา
- ขยัน มีวินัย เป็นระเบียบ คือ โอกาสทางการขายที่เราไม่ปล่อยผ่านไปอย่างน่าเสียดายค่ะ ขยันหาข้อมูลสินค้าและลูกค้า ติดตามอย่างใกล้ชิด จัดทำเอกสารอย่างรอบคอบ และสร้างระเบียบวินัยให้ตนเอง รักษา Commitment ทุกครั้งที่เจรจากับลูกค้า
- แสวงหาความรู้ เน้นความรอบรู้ โดยเฉพาะข่าวสารอสังหา สื่อการตลาด และทรัพยนั้นๆ ที่สำคัญ ฉลาดและต้องเฉลียวเสมอนะคะ อย่าปล่อยผ่านในเรื่องที่ไม่สมควร เช่น การยกเว้นเซ็นสัญญาแต่งตั้งนายหน้า เป็นต้น
- มีช่องทาง Connection ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางหารายได้ จากเพื่อนร่วมงานในวงการของเราค่ะ ใครมีช่องทางเยอะ ก็จะได้เปรียบค่ะ
- ยืดหยุ่น เพราะ ทำงานไม่เป็นเวลาบ้าง ต้องมีความอดทนสูงและทัศนคติที่ดีต่ออาชีพนายหน้าค่ะ
พอเข้าใจภาพรวมกันไปบ้างแล้ว ลองสำรวจตัวเองดูก่อน ว่าเราเห็นด้วยและผ่านเกณฑ์ทุกข้อทั้งหมดหรือไม่ค่ะ ตามที่ได้กล่าวทั้งหมดนั้น คือ “ความน่าเชื่อถือ” และ “มืออาชีพ” ที่ทำให้ลูกค้าเลือกคุณเป็นนายหน้าได้อย่างไม่ยากค่ะ