Ep.1 Exclusive interview ถอดความคิดนักลงทุนกับ คุณพิพัฒน์ ไวตระกูล… รวยเร็ว รวยยั่งยืน
Episode I : รวยเร็ว ... รวยยั่งยืน
วันแล้ววันเล่ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เส้นทางเติบโตของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน บางคนปูทางมาด้วยกลีบกุหลาบ บางคนล้มลุกคลุกคลาน บนถนนเส้นเดียวกันบางคนเจอทางเรียบบางคนเจอทางขรุขระ แต่มันก็เท่านั้น… ถ้าสุดท้ายแล้วปลายทาง “ความรู้สึก” ของเรา ยังคงติดค้างอยู่ที่คำว่า “อิสรภาพ”
โอกาสที่ไม่ได้จากงานประจำ ความกดดันและการแข่งขันที่สูง แล้ววันไหนกันเล่า…เราถึงจะเป็นเจ้านายชีวิตตัวเอง??
ความเป็นเจ้านายตัวเอง แท้จริงมันอยู่ที่ไหน?
อิสระทั้งตัวเอง อิสระทั้งการเงิน มีอยู่จริงไหมหรือเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา?
คำตอบนั้นอยู่ที่ตัวคุณ!
สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน Property 101 Thailand อสังหา 101 ดูรู้..อยู่เป็น
วันนี้เราขอพาทุกท่านพบกับนักลงทุนท่านหนึ่งที่มีชีวิตดุจเรือเล็กบนสายน้ำกว้างใหญ่ เขาแล่นเรือผ่านคลื่นลูกเล็กลูกใหญ่มานักต่อนัก คลื่นของวิกฤตและธรรมชาติชีวิตที่ถาโถม วันนี้เรามาขอแบ่งปันประสบการณ์ของคุณพิพัฒน์ ไวตระกูล หรือคุณกันได้เลยค่ะ
ถ้าคุยกันในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ นักการขายหรือเซลล์คนไหนบ้างจะไม่รู้จักชื่อเขา ไม่ว่าโครงการใดเปิดตัวก็ตาม หากมีชื่อเขาจรดปากกาลงใบจองโครงการนั้นเมื่อไหร่ ขอให้รู้เลยว่า Product ของคุณคือที่สุด!
ทำไมนะหรือ? ไปดูกันค่ะ..
อิสระทั้งตัวเอง อิสระทั้งการเงิน ความเป็นเจ้านายชีวิตตัวเอง.. มีอยู่จริงไหม? หรือแค่ภาพลวงตา
จุดแรกเริ่มจากต้นทุนชีวิต
คุณพิพัฒน์ย้อนอดีตเล่าให้ฟังว่า เขาไม่ใช่นักธุรกิจใหญ่โตที่ไหน ชีวิตเขาเริ่มต้นที่เลข 0
พื้นเพครอบครัวทำอาชีพชาวสวนยางพาราที่เบตง อำเภอใต้สุดของประเทศไทย บ้านอยู่บนทิวเขาที่มีอยู่หลังเดียวท่ามกลางป่าลึกห่างไกลจากตัวเมือง จะเอาโอกาสที่ไหนมาเก่งเหมือนเด็กกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ใครทุกคนต่างก็มีเหมือนๆ กัน นั่นก็คือ “การออกแบบชีวิต” และทำให้ได้อย่างที่อยากจะเป็น
เขาเองก็ไม่ต่างกับคนอื่นที่ล้วน “อยากรวยเร็ว” แต่จะรวยอย่างฉาบฉวย หรือ รวยอย่างยั่งยืน มันก็อยู่ที่ “การออกแบบชีวิต” ที่ว่านี้ และจากการเติบโตรวดเร็วทางความคิดก่อนคนอื่น คุณพิพัฒน์เริ่มต้นอาชีพแรกด้วยการเป็นนักการธนาคาร ยอมรับเลยนะคะ… ว่าในยุคสมัยก่อนย้อนไปซัก 20-30 ปีนั้น เป็นอาชีพที่มีเกียรติ มั่นคง เชิดหน้าชูตาได้ไม่น้อย คิดว่ามันเป็นความฝันและความภาคภูมิใจให้แก่บิดามารดาแล้ว แต่ก็ค้นพบว่ามันไม่ง่ายที่จะไปถึงชีวิตที่เขาออกแบบไว้
ไม่ใช่ว่างานประจำไม่ดี แต่กฎระเบียบของบริษัท ผู้จัดการ เพื่อนร่วมงาน วัฒนธรรมองค์กร ไม่ได้ตอบโจทย์ชีวิต.. และที่สำคัญเม็ดเงินผลตอบแทนที่ได้ มันก็วิ่งไปได้แค่เท่าที่เราตกลงเซ็นสัญญาว่าจ้างนั่นแหละ แล้วแบบนี้.. การออกแบบชีวิตที่วางไว้เมื่อไหร่จะเป็นจริง! เขาอยู่เฉยไม่ได้ จนท้ายที่สุดสิ่งที่เรียกว่า “การวางแผน” ก็เข้ามามีบทบาททันที
เด็กยุคปัจจุบันโชคดีที่เกิดมาพบกับยุคดิจิตัลที่เชื่อมต่อโลกได้ในกำมือ อยากรู้อะไรเพียงแค่พิมพ์ก็เหมือนมีกูรูมากระซิบชี้นำให้ตรงหน้า แล้วย้อนอดีตไปในในยุคนั้นบ้างล่ะ ชายผู้นี้เอามาอะไรมาค้นหาข้อมูลเพื่อค้นพบตัวเอง
เพราะความไม่รู้ ลองผิดลองถูก ผลถึงได้ล้มเหลวติดหนี้สินตั้งแต่ช่วงต้นของชีวิตวัยทำงาน แค่เริ่มต้นก็คลื่นลูกใหญ่เสียแล้ว เป็นหลายคนคงกลับลำ ถอยไปตั้งหน้าตั้งตาทำงานรอเงินโบนัสและเลื่อนตำแหน่งยังคุ้มเสียกว่า แต่สำหรับเขา.. แม้เสียเงินเสียทองเสียเวลา แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ การเรียนรู้และอย่าหวังว่าเขาจะผิดพลาดในเรื่องเดิมอีก
รวยอย่างฉาบฉวย หรือ รวยอย่างยั่งยืน.. อยู่ที่การออกแบบชีวิต
ลำบากกว่า 10 ปีแรกของวัยทำงาน เขาวิ่งเข้าหาทุกโอกาสควบคู่ไปกับการเคลียร์ทุกปัญหาหนี้สิน จนขัดเกลาให้เขาแตกฉานได้ว่า “ชีวิตต้องมีการวางแผนเป็นขั้นบันได วินาทีนั้นรู้เลยว่า… ไม่มีอะไรแน่นอนบนโลกใบนี้ มันอยู่ที่การวางแผน ไม่ใช่แค่แผนหลัก แต่ต้องมีแผนสำรองอีกหลายชั้น และเราจะโตอย่างยั่งยืน”
จับทางได้สวยพร้อมลุยต่อได้จากประสบการณ์ที่มี
ทำไมต้องลงทุนในอสังหาริมทรัพย์?
คุณพิพัฒน์เล่าว่าการลงทุนไม่ได้มีแบบเดียว แต่การลงทุนแต่ละแบบต่างหากที่แตกต่าง ความโดดเด่นของอสังหาฯ คือเสน่ห์ที่เขาหลงใหล ไม่ต้องใช้คน ไม่ต้องรอวิตกกับการผันผวนของค่าเงิน ราคาน้ำมันขึ้นลง ตลาดเงินติดดอย วิกฤตเศรษฐกิจโลก หรือปัจจัยอื่นใดสารพัดที่ควบคุมไม่ได้ แต่ทรัพย์สินนี้ที่ตั้งอยู่บนทำเลดีเยี่ยมนี้ต่างหากที่ถาวร สามารถปล่อยให้เงินทำงานได้ด้วยตัวเอง มันปลอดภัย ใช้แค่ความคิดและการวางแผนขับเคลื่อนก็พอ
นี่เป็นแค่เพียงบทเริ่มต้นที่เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณพิพัฒน์ ไวตระกูล หรือคุณกัน อย่าเพิ่งใจร้อนนะคะ เพราะบทสัมภาษณ์ต่อไปเราจะลงไปถึงโครงสร้างทางความคิด วิธีสร้างรากฐาน จนถึงวิธีทำให้แนวคิดนี้เติบโตงอกงามอย่างลงตัวและยั่งยืน จะเป็นอย่างไรติดตามได้ในตอนต่อไปค่ะ