fbpx

เมื่อ Remote Working กำลังจะเป็น New Normal

5.00 min. Read

เคยได้ยินว่า…เราอยู่ในยุคที่การทำงาน Office แบบใส่สูทผูกไทด์ นั่งหันหน้าชนกันกำลังจะหมดไป แต่โลกกำลังเข้าสู่เทรนด์ Remote Working หรือ อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ มาแทนที่กันซะแล้วค่ะ

ดูท่าจะจริง! เพราะ ไม่ว่าไปที่ไหน เรามักจะเห็นคนพก Ipad หรืออุปกรณ์ Device ต่างๆ นั่งทำงานกันอยู่ทุกที่ เริ่มตั้งแต่ทำงานที่บ้าน เขียนงานที่ร้านกาแฟเก๋ๆ นั่งเช็กอีเมล์ก่อนขึ้นเครื่องที่สนามบิน หรือ Tele-conference จากฮ่องกง อย่างกับย่อโลกให้อยู่ในกำมือเลยจริงๆ ค่ะ อาจเป็นเพราะ หัวใจของการทำงานอยู่ที่ผลสำเร็จและบรรลุเป้าหมาย ซึ่งเป็นคุณภาพของงานที่แท้จริง มากกว่าการยึดติดสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง

www.rawpixel.com

หลายองค์กรทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะออฟฟิศธุรกิจเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้านการสื่อสาร ด้านโฆษณา ฯลฯ เริ่มปรับเปลี่ยนหันมาใช้แนวคิดแบบนี้มากขึ้น หลายองค์กรมีนโยบายยืดหยุ่น ให้เข้าออฟฟิศสัปดาห์ละ 2-4 วันเท่านั้น สำหรับพบลูกค้า การประชุม การติดต่องานภายใน งานเดินเอกสาร และการพบปะสังสรรค์เพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนร่วมงานบ้าง

ส่วนวันที่เหลือนั้น ก็ยกให้พนักงานเป็นนายตัวเอง…ขอปรบมือให้รัวๆ เลยค่ะ

Pros of Remote Working

ประโยชน์ของ Remote Working แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ

  • ประโยชน์ต่อบุคคล

ทุกวันที่เราต้องเผชิญไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าจอมโหด เพื่อนร่วมงานจอมซุบซิบ ความวุ่นวายการเดินทาง การแย่งกันต่อแถวร้านอาหารช่วงพักเที่ยง และอีกสารพัดปัญหาระหว่างวัน แค่ฟังก็หมดพลังแล้วใช่มั้ยคะ… คิดดูว่า การได้ออกห่างจากเรื่องเหล่านี้ซักพักเพื่อรีชาร์จพลังกายพลังใจ ก็ช่วยคลายเครียดได้ไม่น้อยเลยค่ะ ซ้ำยังลดความกดดัน หลุดออกจากกรอบเดิมๆ แล้วไปเพิ่มเวลาสร้างสรรค์ผลงานได้มากขึ้นแทน

ที่สำคัญ ยังเป็นการพัฒนาตัวเองให้เรามีอิสระทางความคิด รู้จักการบริหารเวลา และรับผิดชอบต่อตนเอง ศักยภาพ (High Calibre) ของพนักงานที่มีต่อองค์กรรับรอง 10 เต็ม 10 แน่นอนค่ะ

หัวใจของการทำงานอยู่ที่ผลสำเร็จและบรรลุเป้าหมาย ซึ่งเป็นคุณภาพของงานที่แท้จริง มากกว่าการยึดติดสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง
www.behance.net
  • ประโยชน์ต่อองค์กร

เมื่อจำนวนคนเข้าออฟฟิศลดน้อยลง ก็ช่วยลดค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแม่บ้านไปได้เต็มๆ แถมยังลดปัญหาขาดลามาสายได้อีกด้วย เอาเวลาสายไปทำงานแล้วส่งไฟล์มาแทน องค์กรคงถูกใจมากกว่าค่ะ แต่ประโยชน์ที่ได้รับเต็มๆ ย่อมเป็นคุณภาพชิ้นงานและศักยภาพของพนักงานอยู่แล้วค่ะ

  • ประโยชน์ต่อสังคม

เช่น ลดปัญหารถติด ลดปัญหาฝุ่นมลภาวะ ลดปัญหาการแพร่เชื้อของโรคระบาด ที่หลายเมืองใหญ่ทั่วโลกกำลังเผชิญก็หาทางออกด้วยวิธีนี้เช่นกันค่ะ

Productive Remote Working
วิธีเตรียมความพร้อมการทำงานที่บ้าน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มีดังนี้

1. เตรียมสถานที่

จำไว้ว่าการทำงานที่ดีที่สุดต้องทำที่ “โต๊ะทำงาน” เท่านั้นค่ะ เราควรจัดหาเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะและเก้าอี้คุณภาพดี มีความแข็งแรงทนทาน รองรับสรีระ และดีต่อสุขภาพแม้นั่งทำงานนานๆ รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมเล็กๆ น้อยๆ สำหรับใส่เครื่องเขียนหรือเอกสาร

เราควรเซ็ตสถานที่ห้องทำงานอย่างจริงจังแยกขาดจากห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน เพื่อตั้งสมาธิการทำงานอย่างเต็มที่ แต่หากเรามีพื้นที่จำกัด เช่น คอนโด 1 Bedroom หรือ Studio ก็อาจเซ็ตมุมทำงานไว้ส่วนหนึ่งของห้องแทนก็ได้ค่ะ แต่ต้องหลีกเลี่ยงการทำงานบนเตียงอย่างเด็ดขาดเลยนะคะ ไม่งั้นได้เผลองีบหลับก่อนแน่ๆ

www.behance.net

2. เตรียมอุปกรณ์

ในยุค Hi-Technology นี้ มีอุปกรณ์ Life Changing Item คิดค้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกรองรับทุกการใช้งานให้เลือกเยอะค่ะ โดยเฉพาะการทำงาน เรียกว่าอุปกรณ์หลัก อุปกรณ์เสริม Gadget ล้นตลาด… สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ คอมพิวเตอร์ และมือถือ

สองสิ่งจำเป็นเสมือนสมองและแขนขาของการทำงาน แนะนำให้เลือกใช้รุ่นที่ยังไม่ตกเทรนด์ ไม่เก่ามาก หรือใช้ในกลุ่มองค์กรของเราประเภทเดียวกัน เพื่อให้ประสิทธิภาพในการแสดงผลงานผ่านหน้าจอไม่สะดุดค่ะ

www.behance.net

3. เตรียมเทคโนโลยี

5G Network เทรนด์ที่เชื่อมโลกเข้าด้วยกัน ใครยังไม่มีให้รีบจัดค่ะ สิ่งสำคัญที่สุดไม่มีไม่ได้ คือ Internet ความเร็วสูง ตามด้วย Application สำหรับ Teleconference, Share Drive หรือ VPN สำหรับดูไฟล์งานร่วมกัน, Program Office Tools ต่างๆ ที่จำเป็น รีบดาวน์โหลดและติดตั้งในทุกอุปกรณ์การใช้งาน การทำงานยุคใหม่ต้องใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ค่ะ

ติดตั้งแล้ว…ก็อย่าลืมศึกษาวิธีใช้งานและฝึกใช้ให้คล่อง เพื่อไม่ให้เสียเวลา พาลจะเสียอารมณ์อีกถ้าใช้ไม่เป็นค่ะ

การทำงานยุคใหม่ต้องใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์

4. เตรียมแผนการทำงาน

อย่าทำงานโดยไม่มีเป้าหมายแต่ละวัน ถ้าเช่นนั้นงานเราจะไม่มีวันเสร็จค่ะ เพราะบ้านเป็นสถานที่ Comfort Zone ถ้าไม่มีใครมาควบคุม ความเกียจคร้านและการปล่อยปละละเลย จะเข้ามาควบคุมเราในที่สุด ไหนจะสิ่งยั่วยุ เกม ซีรี่ย์ ขนม สิ่งล่อตาล่อใจวนเวียนอยู่รอบตัวเรา ดังนั้นแผนงานนี้ถือเป็นการรับผิดชอบต่อตัวเองอย่างแท้จริงที่สุดค่ะ

ให้จัดทำ To Do List กำหนดแผนงานและเป้าหมายชัดเจนในแต่ละวัน ว่าต้องอะไรบ้าง ประชุมเมื่อไหร่ ตามงานกับใคร ส่งงานตอนไหน เป็นเวลาอย่างชัดเจน และทำให้เสร็จตามที่วางแผนไว้ ถึงเรียกว่าประสิทธิผลของงานลุล่วงค่ะ

www.behance.net

5. เตรียมตัว

สิ่งสุดท้าย คือ ใจและวินัยของตนเองล้วนๆ ค่ะ การมุ่งมั่นเป็นนายตัวเอง ต้องเริ่มจากเคารพและรู้รับผิดชอบในหน้าที่ของตน รู้จักการบริหารเวลาอย่างเป็นระบบตั้งแต่การตื่นนอน การพักเที่ยง ไปจนถึงเวลาเลิกงาน Assignment และ Commitment ที่มีต่อองค์กรต้องทำได้จริง และอย่าลืม หมั่นดูแลรักษาและบำรุงสถานที่ทำงาน Working From Home ในบ้านของเราให้พร้อมใช้งานและจุดประกายความคิดเราอยู่เสมอๆ นะคะ

เราสามารถนำแนวคิดดีๆ จาก Remote Working มาปรับเป็น Remote Life ในเรื่องอื่นๆ ได้อีกเช่นกันนะคะ ส่วนใครเตรียมพร้อมครบทั้ง 5 ข้อแล้ว รับรองว่า “Flow State” หรือภาวะไหลลื่นในการทำงาน ย่อมเกิดขึ้นได้จริงกับทุกคน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตามแน่นอนค่ะ

Happy Working Day

Content Creator: Bluebell



Copy link