fbpx

ปฏิวัติเทรนด์ที่อยู่อาศัยแบบ New Normal

5.00 min. Read

ในอดีต…โลกเกิดการปฏิวัติเพื่อนำไปสู่สิ่งใหม่หลายต่อหลายครั้ง และเกิดขึ้นทุกแขนง ดังเช่น ปฏิวัติอุตสาหกรรม ปฏิวัติเกษตรกรรม ปฏิวัติเทคโนโลยี และปฏิวัติที่อยู่อาศัย โดยมี AI สุดล้ำเป็นตัวชูโรงที่ทั้งฉลาดและน่าทึ่ง อำนวยความสะดวกมากซะจนบางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า… นี่คือที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งมนุษย์ได้

เราอาจชะล่าใจเกินไปเมื่อสิ่งที่หยุดเราได้ กลับเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นอย่าง “โรคระบาด” เมื่อโลกเว้นวรรคจากสิ่งนี้มาช้านาน เราจึงไม่ทันได้ตั้งตัว จนเกิดความสูญเสียมหาศาล สั่นสะเทือนไปทุกวงการ

อย่างไรก็ตาม… ความโชคดีคือมนุษย์มีกลไกปรับตัวแฝงอยู่เสมอ รู้จักเรียนรู้ แก้ไข และรับมือ จนบัญญัติรูปแบบการใช้ชีวิตแบบ “New Normal” หรือ “ชีวิตวิถีใหม่” ขึ้นมา

www.rawpixel.com

New Normal คืออะไร?

คำๆ นี้เป็นศัพท์เก่าที่ถูกใช้ใหม่ ในการตีความที่ต่างออกไป

Bill Gross นักลงทุนในตราสารหนี้ ได้ใช้คำนี้ครั้งแรกในปี 2008 ในเชิงเศรษฐศาสตร์ นิยามถึงภาวะเศรษฐกิจโลก ที่จะมีอัตราการเติบโตชะลอตัวลงจากในอดีต และเข้าสู่อัตราการเติบโตเฉลี่ยระดับใหม่ที่ต่ำกว่าเดิม พูดง่ายๆ ว่าลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่พุ่งทะยาน ดังเช่น เศรษฐกิจจีนที่รักษาสภาพคงเหลือ 7% จากเดิมที่เติบโตถึง 10% ซึ่งไม่ใช่การถดถอย แต่เพื่อสร้างความยั่งยืนและเสถียรภาพมากขึ้น

และในปี 2020 ได้กลับมาใช้คำๆ นี้อีกครั้งแต่เป็นในรูปแบบสังคมและการใช้ชีวิต ที่มุ่งใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม นั่นคือ การเว้นระยะห่างทางสังคม การแยกภาชนะ กินร้อนช้อนตัวเอง ล้างมือ หน้ากากผ้า กระเป๋าผ้า เพื่อสุขอนามัย และที่สำคัญ คือ “รณรงค์การอยู่บ้าน” ออกจากบ้านเมื่อจำเป็น

เพราะเหตุนี้ บ้านจึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น และประชาชนทุกคนต้องมีบ้าน

รณรงค์การอยู่บ้าน...เพราะเหตุนี้ บ้านจึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น และประชาชนทุกคนต้องมีบ้าน

บ้านยุคใหม่ หน้าตาแบบไหน?

อาจจะถึงคราวต้องปฏิวัติที่อยู่อาศัยกันอีกครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบ New Normal หากใครอาศัยอยู่บ้านเดี่ยว รูปแบบการใช้ชีวิตภายในบ้านอาจจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ถ้าใครอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม สถานที่ซึ่งผู้คนอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นสังคมหมู่มาก เทรนด์ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

1. พื้นที่

หลังช่วงทดลองปิดออฟฟิศ หลายบริษัทก็พิสูจน์ได้แล้วว่าการทำงานแบบ Work From Home (WFH) ก็ทำได้นี่นา… ดึงศักยภาพคนทำงานได้ดี แถมลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ซ้ำพนักงานยังได้คุณภาพชีวิตดีๆ ไม่ต้องเจอปัญหาฝนตก รถติด ฝุ่นมลพิษ สู้ไปบริหารเวลาเสียใหม่ โดยเอาเวลาบนท้องถนนไปออกกำลังกายแทนก็ยังได้

เมื่อเทรนด์ WFH ได้ผล คนทำงานอย่างเราๆ จึงต้องปรับโฉมบ้านกันยกใหญ่ มองในแง่ดีก็ถือว่าเป็นประโยชน์ไม่น้อย ที่จะจัดการชีวิตให้มีระเบียบโดยเริ่มจากที่บ้าน ทั้งนี้มีมุมมองน่าสนใจ คือ ผู้คนจะมองหา 2 ห้องนอนกันมากขึ้น โดยแต่งห้องหนึ่งเป็นห้องนอน ส่วนอีกห้องหนึ่งเป็นทำงาน

www.behance.net

Google AdSense

เทคนิคจริงให้เราทำงานที่บ้านอย่างไรให้ได้ผล คือ ต้องห่างไกลจากเตียงและตู้เย็น ไม่เช่นนั้นเราจะคุ้นเคยกับบรรยากาศบ้านๆ ที่สบายๆ ปนความขี้เกียจ หรือมีสิ่งล่อตาล่อใจอย่างทีวี ไปจนถึงสมาชิกในครอบครัววนเวียนมาพูดคุยรบกวน จนสุดท้ายก็ไม่สามารถทำงานได้

การสร้างห้องทำงานอย่างจริงจัง ที่ทั้งส่วนตัวและมีพื้นที่ ช่วยสร้างสมาธิและรองรับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นทางออกของคนยุคใหม่

2. อินเตอร์เนท เทคโนโลยี และอุปกรณ์

โลกเทคโนโลยีถูกพัฒนากลายเป็นความจำเป็น เริ่มจากอินเตอร์เนทบ้านความเร็วสูงที่ทุกบ้านต้องมี เพราะทุกการเรียน การทำงานและข้อมูล (Database) ต่างๆ ตั้งอยู่บนโลกออนไลน์ รวมทั้ง Entertainment ต่างๆ ที่ช่วยให้การอยู่บ้านเป็นเรื่องสนุก ทั้งดูหนัง ฟังเพลง ช้อปปิ้ง สอดคล้องกับนโยบายการอยู่บ้านได้อย่างดี

รวมถึงอุปกรณ์ดูแลสุขภาพ เช่น เครื่องออกกำลังกาย ลู่วิ่ง ฯลฯ ก็ถูกพัฒนาขนาดให้ติดตั้งได้ในบ้าน แม้ในพื้นที่แคบ

3. เครื่องปรับอากาศ

ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอากาศที่หายใจเข้าไป ล้วนเต็มไปด้วยมลภาวะ ฝุ่น ควัน ไอเสีย และเชื้อโรค แนวโน้มเทคโนโลยีเครื่องปรับอากาศภายในอาคารและพื้นที่ส่วนกลาง จะถูกเรียกร้องให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถสร้างทั้งความเย็น ฟอกอากาศ กรองสิ่งเจือปน ลดพลังงาน สร้างอากาศบริสุทธิ์ ไม่กระทบสิ่งแวดล้อม และประหยัด

หลายโครงการเริ่มใช้ระบบ ERV (Energy Recovery Ventilator) เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ และรองรับสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีที่สุด หากใครกำลังมองหาคอนโดใหม่ๆ นอกจากเรื่องภายในห้องชุดแล้ว วิสัยทัศน์ของ Developer ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตเรื่องนี้ก็สำคัญ

www.unsplash.com

4. การบริการของนิติบุคคล

นิติบุคคล คือ ทีมบริหารอาคารชุดเพื่อให้อาคารและลูกบ้านได้รับการดูแลอย่างดี สงบร่มเย็น และเพื่อให้ถูกต้องกับสถานการณ์ New Normal นี้ หลักการบริหารทีมงานที่เกี่ยวข้อง จึงต้องปรับหลักสูตรกันไปบ้าง

เริ่มจากบทบาทของรปภ. ต้องแสกน คัดกรอง บุคคลเข้าออกให้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนเข้าโครงการ การสกัดจุดรับส่งของจากบุคคลภายนอก

แม่บ้านพ่อบ้าน มีรอบทำความสะอาดถี่และทั่วถึงมากขึ้น โดยเฉพาะลิฟต์ ประตู ที่ได้รับการสัมผัสบ่อยๆ การฆ่าเชื้อพื้นที่ส่วนกลาง สระว่ายน้ำ สปา ซาวน่า อย่างถูกต้องตามหลักสุขลักษณะ

การเพิ่มบริการพิเศษ ส่งของ ส่งอาหารถึงห้องพัก ในกรณีลูกบ้านมีอาการเสี่ยงเจ็บป่วย ช่วยลดการแพร่เชื้อโดยไม่จำเป็น

และที่ขาดไม่ได้ คือ มีบริการวางจุดเจลแอลกอฮอล์ให้ลูกบ้านใช้งานได้อย่างทั่วถึง

แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดล้วนเป็นบริการนอกเหนือมาตรฐาน การพิจารณาค่าส่วนกลางก็อาจสูงขึ้นตามลำดับ ขึ้นอยู่กับว่าประโยชน์ที่ได้รับคุ้มค่าคุ้มราคาหรือไม่

5. Social Distancing

ระยะห่างทางสังคมจะถูกปรับใช้ในพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แรกเริ่มผู้คนยังไม่คุ้นเคยอาจรู้สึกอึดอัดกันไปบ้าง แต่แท้จริงแล้ว…ข้อดีของระยะห่างมีมากทีเดียว ทั้งห่างไกลโรคภัยและยังคงความเป็นส่วนตัว

ด้วยวิธีการจองคิวเข้าใช้บริการและจำกัดจำนวนคนเข้าต่อครั้ง โดยบังคับใช้ที่ห้องฟิตเนส ห้องสมุด Co-Working Space สระว่ายน้ำ หรือ Lounge ของโครงการ

มุมมองที่พัฒนาโครงการได้ต่อจากนี้ไป คือ รูปแบบการสร้างห้องสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้อาจเปลี่ยนไป ให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน โดยเป็นลักษณะ 1:1 เช่น Co-Working Space ที่มีขนาดเล็กลง แต่เป็นห้อง Private ที่มีหลายห้องมากขึ้น หรือพัฒนาห้องฟิตเนส ลู่วิ่งส่วนตัวแบบมีฉากกั้น เป็นสัดส่วนการใช้งานไม่ปะปนกัน

รูปแบบพื้นที่ส่วนกลางอาจเปลี่ยนไป ให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน โดยเป็นลักษณะ 1:1

เทรนด์ปฏิวัติที่อยู่อาศัยหน้าใหม่นี้ จะช่วยปรับเปลี่ยนไปการใช้ชีวิตของเราไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิม เชื่อว่าเหล่า Developer ทั้งหลายต่างเรียนรู้จากเหตุการณ์ปี 2020 และไม่หยุดนิ่งที่จะคิดค้นโครงการใหม่ๆ ตอบรับกระแส New Normal อย่างแน่นอน

คงต้องจับตาดูกันต่อไป ว่าโครงการโฉมใหม่จะหน้าตาเป็นอย่างไร…




Copy link