การเดินทางครั้งต่อไป
อาการปวดหัวและพะว้าพะวงที่น่าจะมีความสุขที่สุดในชีวิต คือ การเก็บกระเป๋าเพื่อออกเดินทางครับ…
น้องๆ ในทีมงานบางคนถึงกับส่ง Check List มาให้ผมเพื่อคอยตรวจสอบว่าเอาของที่จำเป็นติดตัวไปครบหรือเปล่า บางทีเราก็จะห่วงหน้าพะวงหลังจนลืมของสำคัญๆ ไปได้เสมอ คิดว่าบางท่านคิดถึงอาการหวั่นวิตกแบบนี้กันมากพอควร และพร้อมแล้วที่จะปวดหัวและพะว้าพะวงครั้งใหม่ในการเดินทางที่คาดหวังว่าจะเกิดขึ้นได้ในเร็ววันนี้…
เอาเป็นว่า…ถึงแม้จะไม่ได้ลืมนั่นลืมนี่อยู่เสมอ แต่ก็ต้องมีลืมนู่นลืมนี่บ้าง เคยลืมอะไรกันบ้างไหมครับ? และที่สนุกที่สุด คือ การที่เราจะมาลุ้นกันว่าเราจะรู้สึกตัวตอนไหนว่าเราลืมอะไรบ้าง แต่จะแก้ปัญหาเหล่านั้นอย่างไรนั้น ก็คงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ถือว่าทรมานไม่น้อยเช่นกัน บางท่านลืมของเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังพอหาซื้อหาทดแทนกันได้ระหว่างการเดินทาง แต่สำหรับเวลาที่เราลืมของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นๆ บางอย่าง บางทีก็หงุดหงิดตัวเองเหมือนกันครับ นึกว่าหยิบลงกระเป๋าแล้วแต่บางทียังวางในตู้ทุกครั้งไป
มาเริ่มทริปต่อไปกันเลยดีกว่า…ว่าแต่จะเดินทางไปที่ไหนกันดีครับ
ที่ๆ จำเป็นต้องไป
บางท่านออกเดินทางจนเบื่อ จริงครับ…แค่ใช้ระยะเวลาเดินทางก็เหนื่อยแล้ว กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง ถ้านับเวลากันตั้งแต่เริ่มวางแผนการเดินทาง เก็บกระเป๋า เตรียมตัวก่อนออกเดินทางก็หมดแรงแล้วครับ ยิ่งสำหรับท่านที่ต้องเดินทางด้วยภารกิจการงานหรือภารกิจส่วนตัวต่างๆ บางทีจุดหมายปลายทางอาจจะไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่ แต่ลองมองหาทางออกดูได้ก็จะดีนะครับถ้ามีโอกาส
เรื่องงานบางทีหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ด้วยธุรกิจที่กำลังเดินหน้าท่ามกลางกระแสความไม่แน่นอนแบบนี้ ดูเหมือนบางท่านจะมองความเป็นจำเป็นจากการเดินทางไปทำงานเป็นกิจวัตรไปเลยด้วยซ้ำ การเดินทางพบผู้คนหรือคู่ค้าในที่เดิมๆ บางทีก็ทำให้เกิดความจำเจได้ แต่ในความจำเจนี้ก็มีบางอย่างให้ค้นหาได้เหมือนกัน
การเดินทางไปทำงาน การพบผู้คนในที่เดิมๆ บางทีก็ทำให้เกิดความจำเจ แต่ในความจำเจนี้... ก็มีบางอย่างให้ค้นหาได้เหมือนกัน
สำหรับท่านที่นิยมสะพายกล้องติดตัวเดินทางไปด้วยก็อาจจะได้เปรียบ นอกจากจะได้เก็บภาพความประทับใจรอบๆ ตัวแล้ว ยังมีโอกาสบันทึกภาพเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อแบ่งปันความทรงจำระหว่างการเดินทางให้เพื่อนๆ ที่ไม่ได้มีโอกาสที่จะเดินทางไปกับเรา มุมมองผ่านกล้องผ่านสายตาของแต่ละท่านไม่เหมือนกันครับ สังเกตุได้จากการที่เพื่อนร่วมทางที่เดินทางไปด้วยกันแท้ๆ ถามว่าถ่ายมาจากมุมไหน?
ที่ๆ มีความทรงจำดีๆ
บางท่านชอบเดินทางไปที่เดิมๆ ซ้ำๆ ไม่ใช่เพราะความคุ้นชิน… แต่ผมคิดว่ามันเป็นความทรงจำดีๆ มากกว่า ยิ่งไปได้บ่อยครั้งเท่าไหร่ ยิ่งได้ซึมซับความทรงจำเหล่านั้นได้ลึกซึ้งมากขึ้น คราวที่แล้วอาจจะเสียดายที่ได้ใช้เวลาในสถานที่ๆ น่ารื่นรมย์เหล่านั้นน้อยไป บางทีก็นึกไม่ถึงว่าพอไปถึงจุดหมายแล้ว อยู่ๆ… ก็รู้สึกอยากจะจมจ่อมกับสถานที่เหล่านี้ โดยไม่มีเหตุไม่มีผล ก็ไม่แปลกอะไรที่จะกลับไปอีกครั้งเพื่อให้ได้ใช้เวลาได้มากขึ้น
พอไปถึงจุดหมายแล้ว อยู่ๆ... ก็รู้สึกอยากจะจมจ่อมกับสถานที่นี้ โดยไม่มีเหตุผล
บางทีก็นึกเสียดายที่ยังไม่ได้มีโอกาสได้กลับไปอีกเลย แต่โชคดีที่ยังพอมีความทรงจำให้ระลึกถึงได้บ้าง ไม่ใช่แค่สถานที่เท่านั้นครับที่ทำให้เราอยากกลับไปที่เดิมๆ แต่มันคือบรรยากาศ ผู้คน วัฒนธรรมต่างๆ ที่เราชื่นชอบและโหยหาที่จะพาเรากลับไปสู่ความทรงจำนั้นซ้ำๆ การเดินทางบนเส้นทางเดิม แวะพักที่ร้านกาแฟเดิม นั่งละเลียดอาหารเที่ยงเมนูเดิม พักผ่อนในสถานที่เดิม ในอิริยาบทเดิมๆ
นอกจากจะได้ย้อนความทรงจำดีๆ มากขึ้นแล้ว มันยังทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายกับชีวิตที่เราเลือกได้กับบรรยากาศที่เราคัดสรรแล้ว เพราะบางท่านอาจจะวุ่นวายกับชีวิตรอบข้างที่เลือกไม่ได้จนเหนื่อยล้านำไปสู่การหลีกหนีชีวิตที่คุ้นชิน เพื่อไปดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สดใสกว่า
ที่ๆ ยังไม่เคยไป
เสน่ห์ของการหลงทางก็น่าหลงใหลไปอีกแบบนะครับ…
ทั้งๆ ที่เราวางแผนการเดินทางได้ดีแล้วแต่ก็ไม่วายเลี้ยวผิดแยก หาร้านอาหารไม่เจอ หรือบางทีอาจจะเผลอเพลินใช้เวลากับสิ่งที่ไม่ได้วางแผนไว้บ้างก็ได้ และสำหรับบางท่านที่มักจะรับหน้าที่เป็นไกด์ทัวร์วางแผนการเดินทางก็น่าจะเครียดไม่น้อย ไหนจะจินตนาการจากสถานที่ๆ ไม่เคยไป อ่านรีวิว วางเส้นทาง ยังต้องคอยดูแลบริหารจัดการลูกทัวร์ไปผู้ร่วมเดินทางไปด้วย แต่คงมีความสุขที่ทุกๆ คนได้เดินทางอย่างราบรื่น จะขาดจะเกินบ้างก็น่าจะหลับตากันสักข้างหนึ่งเพื่อไม่ให้บรรยากาศโดยรวมที่เราเฝ้ารอมันเสียไป
โดยส่วนตัวแล้วน่าจะเป็นคนโชคดีครับ ที่เพื่อนร่วมทางนั้นชอบท่องเที่ยวและหาโอกาสใหม่ๆ ให้ได้พบเจอสิ่งต่างๆ ในสถานที่ที่แตกต่างอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารในรูปแบบใหม่ ทิวทัศน์ที่ไม่เคยเห็น หรือแม้กระทั่งไปเจอวัฒนธรรมใหม่ๆ ที่ยากจะสัมผัส ลองพกสมุดจดเล่มเล็กๆ พร้อมดินสอแท่งสั้นๆ ติดตัวไปด้วยเพื่อบันทึกความทรงจำก็ดีครับ หรือบางท่านอาจจะได้ลองขีดเขียนภาพตรงหน้าในแบบที่จินตนาการลงบนกระดาษก็คงไม่ผิดอะไร
ที่ๆ ไปเพื่อหาตัวคุณเอง
ผมถือคติในการเดินทางไว้อย่างหนึ่งครับ ขออนุญาตแชร์ไว้เผื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านว่า “เมื่อได้เดินทางแล้ว ถ้ากลับมาจากการเดินทางแล้วยังเป็นเราคนเดิมอยู่นั่นแหละคือการเสียเวลาอย่างที่สุด” (ไม่ใช่แค่เสียเวลาด้วยครับ เสียเงินเสียทองด้วย) เพราะนอกจากจะได้เปิดหูเปิดตาแล้ว ผมยังได้เปิดใจไปด้วยสำหรับการเดินทางทุกครั้ง
เมื่อได้เดินทางแล้ว...ถ้ากลับมาจากการเดินทางแล้ว ยังเป็นเราคนเดิมอยู่นั่นแหละ คือ การเสียเวลาอย่างที่สุด
ทุกครั้งที่วางแผนเดินทางและพยายามเดินตามเส้นทางที่วางไว้ ผมมักจะมีโอกาสหยุดมองรายละเอียดตามเส้นทางเหล่านั้นเสมอๆ ไม่ว่าจะร้านเล็กร้านใหญ่ ซอกเล็กซอยน้อยต่างๆ ถ้าคุณได้ใช้เวลาสังเกตุเห็น มันก็อาจจะเป็นแรงบันดาลใจใหม่ได้
หลายครั้งที่แผนการเดินทางที่วางไว้ถูกทลายลงจากดอกไม้ดอกเล็กๆ ดอกหนึ่งที่ยืนเล่นลมอยู่ริมสายน้ำ อดใจไม่ได้ที่จะหยุดมองและเอ่ยคำสนทนาเบาๆ ในใจก็รู้สึกอิจฉาที่ดอกไม้ดอกนั้นได้อยู่ท่ามกลางความสงบนิ่งเช่นนี้…
จริงๆ ตอนเริ่มๆ ก็ไม่ได้ชอบเดินทางมากเท่าไร แต่พอเราเริ่มมีพัฒนาการทางด้านประสบการณ์แล้ว บางท่านอาจจะมองการเดินทางที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาสัมผัสใหม่ การตอบแทนตัวเองด้วยการให้รางวัลชีวิต การซึมซับแนวคิดที่แตกต่าง การสร้างสรรค์เชิงพฤติกรรม และคงมีเหตุผลที่หลากหลายสำหรับทุกท่านที่ชอบเดินทางครับ
ท้ายนี้ การเดินทางไปหาตัวคุณเองอาจจะไม่ต้องเดินทางออกไปไหนไกลก็ได้นะครับ แค่ลองเดินเท้าเปล่าออกมาที่สวนหน้าบ้าน เอื้อมมือไปสัมผัสสายลมที่พัดผ่านมาตรงหน้า หลับตาใต้ร่มเงาของต้นไม้ปลูกไว้ข้างรั้ว นั่งปล่อยลมหายใจช้าๆ รอฟังเสียงเพลงบรรเลงจากนกที่บินไปมา แค่นี้ก็น่าจะพอที่ใช้เวลาเดินทางไปหาตัวคุณเองได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาเก็บกระเป๋า แล้วก็ไม่ต้องกลัวลืมของด้วยครับ