คุณได้ไปต่อ
เมื่อเช้าไม่กี่วันที่ผ่านมา… ผมมีโอกาสเดินกลับไปที่ร้านกาแฟร้านประจำอีกครั้ง พนักงานที่ร้านทักทายด้วยอัธยาศัยที่คุ้นเคยเหมือนเดิม จะว่าไปแล้ว…ก็มากกว่า 2 เดือนที่ไม่ได้กลับมาร้านนี้อีกเลย ด้วยวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น
บรรยากาศที่คุ้นเคยเปลี่ยนไป ไม่มีโต๊ะและเก้าอี้วางระเกะระกะเหมือนเคย ร้านที่ต้องคอยแทรกตัวลงนั่งในมุมที่สบายๆ มีแสงแดดวางเบาๆ บนเครื่องดื่มถ้วยโปรด กลิ่นเครื่องดื่มหลากหลายที่คละคลุ้ง สีสันของอาหารเช้าที่สดใส และคนแปลกหน้าที่เคยมีให้ทักทายกัน ได้จางไปหมดแล้ว…

ผมทักทายน้องคนเดิมพร้อมถามถึงน้องๆ ทีมงานคนอื่นในร้านว่าเป็นอย่างไรบ้าง? สบายดีหรือเปล่า? ทุกคนยังหันมายิ้ม (ด้วยแววตา) อันสดใสเหมือนเคย (แปลกดีครับที่แม้เราไม่ได้เห็นส่วนที่เป็นใบหน้าทั้งหมดของเขา แต่เราก็ยังสัมผัสถึงรอยยิ้มได้มาจากแววตา)
ช่วงที่ผ่านมาลูกค้าน่าจะลดลงไปเยอะตามการสังเกตุของผม และบรรยากาศคงเหงาไปด้วยเช่นกัน แต่ที่สำคัญ…ร้านนี้ยังเปิดอยู่แม้ในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ ผมเริ่มมองเห็นอะไรบางอย่าง อาจเป็นเพราะกลิ่นไอที่คุ้นเคยยังวนเวียนอยู่ในความทรงจำ ผมรับของที่สั่ง เดินกลับบ้านและใคร่ครวญถึงบทความใหม่นี้ ขออนุญาตแชร์ไว้เผื่อวิกฤตการณ์ครั้งหน้าแล้วกันนะครับ
สร้างความยืดหยุ่น (Flexibility)
ความไม่ยึดติดกับความคุ้นเคยเดิมๆ พาคุณออกจากมุมมืดได้ เพราะคุณสามารถมองหาแสงนำทางใหม่ๆ ที่อาจจะพอมีอยู่บ้างประปราย แต่ยังดี…ที่พอจะมีอยู่บ้าง และขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเดินไปตามแสงไหน แสงใหม่ที่แม้ว่าจะริบหรี่ แต่เมื่อเทียบกับแสงเก่าที่ใกล้จะดับลงแล้วนั้น ดูจะเป็นความหวังมากกว่าในช่วงเวลายากลำบาก และระหว่างทางเดินไปหาแสงที่ริบหรี่นั้นจะมีคนที่เดินมาเจอคุณอยู่ด้วยเช่นกัน
ความไม่ยึดติดกับความคุ้นเคยเดิมๆ พาคุณออกจากมุมมืดได้

ความยืดหยุ่นก่อให้เกิดการปรับตัว พลิกแพลง ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นสัญชาตญาณของทุกสิ่ง สังเกตุได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บริการใหม่ๆ และไปจนถึงรูปแบบการทำธุรกิจ (Business Model) ใหม่ๆ ก็เป็นได้ อย่างในช่วงเวลาที่ผ่านมาทุกท่านคงสัมผัสได้ถึงประสบการณ์ต่างๆ เหล่านี้
สร้างการเข้าถึง (Accessibility)
นอกเหนือจากที่จะเปิดโอกาสให้ตัวเองแล้ว ผมขอเสนอว่าลองเปิดให้โอกาสคนรอบข้างด้วยครับ มีวิธีอะไรไหมที่จะทำให้เขาเหล่านั้นสามารถเข้าถึงคุณได้บ้าง เปิดประตูบานใหม่ให้คนรอบข้าง น่าจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจครับ เมื่อประตูบานเก่าถูกกีดขวาง ลองเปลี่ยนทางเข้าออกเพื่อต้อนรับสิ่งใหม่ๆ ดูบ้าง…

นอกเหนือจากที่จะเปิดโอกาสให้ตัวเองแล้ว ลองเปิดให้โอกาสคนรอบข้างด้วยก็ดี
ตอกย้ำเรื่องความภักดี (Brand Loyalty)
ให้ความสำคัญกับคนที่ภักดีกับแบรนด์ (ของตัวคุณเอง) และธุรกิจของคุณ ไม่ว่าเค้าจะเป็นพนักงาน เพื่อนร่วมงานในวงจรธุรกิจของคุณ และที่สำคัญ…สำหรับคนที่คอยให้กำลังใจคุณอยู่ อาจจะเป็นระยะทางที่เพียงห่างๆ ในตอนนี้ เชื่อผมครับ…วันหนึ่งระยะความห่างนั้นจะแคบลง และคุณอาจจะได้พึ่งพาและเป็นคู่ค้าคู่คิดกันได้สักวัน
ให้ความสำคัญกับคนที่ภักดีกับแบรนด์ (ของตัวคุณเอง) และธุรกิจของคุณ ไม่ว่าเค้าจะเป็นใคร
ลูกค้าบางท่านรู้จักกันมาร่วม 20 ปีเคยมีโอกาสทำงานด้วยกันแค่ไม่กี่โปรเจค แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น คือแรงสนับสนุนทางใจจากคนรอบข้างเหล่านี้ที่คอยผลักดันคุณให้เดินหน้าต่อไป และนั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญในช่วงเวลานี้ที่ไม่น่ามองข้าม

ไม่แน่ใจว่าร้านประจำร้านโปรดของคุณเป็นอย่างไรบ้าง ถ้ามีโอกาสลองแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนดูนะครับ แบ่งปันกำลังใจและช่วยเหลือกันในยามนี้ด้วย อีกไม่นานผมคงได้กลับไปเยี่ยมพวกเขาเหล่านั้นให้ครบเหมือนกันครับ…