เปิดไอเดียแต่งบ้านน่าอยู่ สไตล์สแกนดิเนเวียน (Scandinavian)
เวลามีโอกาสเปิดดูรูปบ้านฝรั่งสวยๆ บ้านที่เห็นตามหนังซี่รี่ย์ หรือเวลาไปท่องเที่ยวยุโรป หลายๆ คนจินตนาการอยากมาใช้ชีวิตที่นี่ตลอดไปบ้าง เพราะหลงรักเสน่ห์ของเมืองและความสวยงามของบ้านเรือน ดังนั้น หากพูดถึงบ้านในฝันแล้ว…สิ่งที่เราประมวลความคิดออกมาได้เร็วที่สุด ก็ใกล้เคียงบ้านสไตล์ฝรั่งที่เราเห็นผ่านหูผ่านตากันแต่เด็กๆ นี่เลยคะ แต่จะแต่งบ้านสไตล์ยุโรปในเมืองร้อนๆ แบบประเทศไทยนี้ อาจฟังดูไม่เข้ากันแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ซะทีเดียว เราอาจหยิบยกบางแนวคิดมาเนรมิตบ้างก็ไม่ผิดกติกาค่ะ
บ้านฝรั่งที่เราคุ้นตากันนั้น เรียกว่า การตกแต่งสไตล์แสกนดิเนเวียน ซึ่งอินสไปร์งานออกแบบเข้ากับทุกแบบบ้านกระจายไปทั่วโลก
อสังหา 101 ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ ที่ตกหลุมรักบ้านแสกนดิเนเวียน เพราะความน่าอยู่ อบอุ่น แวดล้อมด้วยธรรมชาติทั้งภายในและภายนอกบ้าน เรียกว่ามโนกันไกล จึงได้ศึกษาข้อมูลหาแนวคิดดีๆ มาแปลงโฉมบ้านของเราเองด้วย เป็นอย่างไรนั้น? ไปทำความรู้จักแสกนดินเวียนแบบเจาะลึกไปพร้อมกันเลยค่ะ
แสกนดิเนเวียนเหมือนฝาแฝดทางความคิดของมินิมอลที่เน้นความเรียบง่าย เส้นสายหมดจด สะอาดตา
แรงบันดาลใจของแสกนดิเนเวียน
เป็นอีกหนึ่งดีไซน์การตกแต่งบ้านที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1950 ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 หากอเมริกาจะมีแนว Mid-Century เป็นดาวเด่น ฝั่งยุโรปก็มี Scandinavian เป็นสตาร์ผู้ให้กำเนิดเหมือนกันค่ะ
สถาปัตยกรรมก่อนหน้าสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ในยุโรปจะเป็นจำพวก Art Nouveau, Art Deco เน้นเส้นสายอ่อนช้อยและปรับมาจากธรรมชาติพืชพันธุ์ต่างๆ เช่น เสาสลักลายเถาองุ่น จิตรกรรมบนฝาผนัง รูปปั้นคนแกะสลัก เป็นต้น ภายหลังสงครามเผด็จการสิ้นสุดลง งานดีไซน์ก็เข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ยุคใหม่ที่ฉีกแบบตามกระแสเสียงสังคม ทำลายการแบ่งชนชั้นวรรณะ ดังเช่น สินค้าที่มีความหรูหราวิจิตรสวยงาม จากที่เคยจำกัดอยู่ในหมู่คนรวย ชนชั้นสูง ก็สามารถเข้าถึงทุกคนได้ อีกทั้งยังปรับแต่งให้เน้นความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก เน้นอบอุ่น เยียวยาความรู้สึกจากการสูญเสียจากภาวะเหตุการณ์ความรุนแรง และลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป
อีกหนึ่งต้นกำเนิดสถาปัตยกรรมเปลี่ยนโลกจากยุคสงคราม คือ Bauhaus
น่าสนใจไม่น้อย เพราะเป็นแรงบันดาลใจให้กับดีไซน์อื่นๆ อย่าง Mid-Century Modern เช่นกันค่ะ
ทำความรู้จัก Bauhaus
บาวเฮาส์มีรากฐานมาจากประเทศเยอรมันนี ที่ซึ่งบอบช้ำจากสงครามโลกสูงสุดถึง 2 ครั้งด้วยกัน ผู้คนเต็มกลืนกับการถูกกดขี่ของลัทธิเผด็จการ ในยุคนั้นการแสดงออกทางความคิด สามารถทำได้เพียงผลงานศิลปะการออกแบบ โดยสถาบันออกแบบที่มีชื่อเสียงกล้านำเสนอแนวคิดเสมอภาคที่สุด คือ บาวเฮาส์นี่เองค่ะ
ดังเช่น หลังคาบ้านตัดฉากราบเรียบประหนึ่งเหมือนอาคารกล่องกระดาษทรงสี่เหลี่ยม แทนที่ดีไซน์เก่าที่ขึ้นจั่วสูงแบบปราสาทสมัยก่อน หรือ ความสวยงามของปะติมากรรม ภาพวาด สิ่งของที่ครั้งหนึ่งเป็นของเล่นคนรวย ก็ปรับเปลี่ยนให้ทุกคนมีสิทธิถือครองได้เช่นกัน บาวเฮาส์ โฟกัสงานดีไซน์ที่หน้าตาและการใช้งานต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน หรือพูดง่ายๆ ต้องสวยและมีประโยชน์ค่ะ
ปัจจุบัน สถาบันบาวเฮาส์เปลี่ยนเป็น Bauhaus University Weimar ซึ่งยังคงเปิดสอนและมีชื่อเสียงสอนการออกแบบ สถาปัตยกรรมและผลิตภัณฑ์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกค่ะ
หัวใจหลักของงานดีไซน์
แสกนดิเนเวียนจะอ้างถึงกลุ่มประเทศในแถบยุโรปเหนือ คือ นอร์เวย์ สวีเดน และเดนมาร์ก ที่มีภูมิอากาศค่อนข้างหนาว ลักษณะแบบบ้านจึงยังมีอิทธิพลของผนังอิฐ เตาผิง พื้นพรม จัดห้องนั่งเล่นลักษณะล้อมวง และเปิดรับแสงแดดอย่างมาก อีกทั้งแสกนดิเนเวียนเหมือนฝาแฝดทางความคิดของมินิมอลที่เน้นความเรียบง่าย เส้นสายหมดจด สะอาดตา
หัวใจหลักจึงสื่อถึงความสวยงาม เรียบง่ายและมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ดี
เฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง
แสกนดิเนเวียชอบโทนสีพื้นทั่วไปตรงๆ อย่าง Gray, White, Brown และ Black ซึ่งเป็นสีกลาง อบอุ่น และให้ความรู้สึกสงบนิ่ง
เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ ส่วนใหญ่เป็นพื้นไม้ มีทั้งสีไม้ธรรมชาติและไม้ทำสีเพื่อให้เข้ากับสีผนัง จนดูเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังเช่น ผนังอิฐขาวลากยาวไปจนถึงพื้นสีขาวล้วนทั้งหมดเพื่อให้ห้องดูกว้าง สว่าง กลมกลืน เกลี้ยงเกลา แต่ดันตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มีเส้นสายสีดำหรือสีน้ำตาลโดดเด่นอยู่กลางห้อง เฟรมหน้าต่างสีดำตัดกับสีผนังขาว ลูกบิดสีดำบนบานประตูสลักขาว หรือห้องสีขาวล้วนแต่มีบานประตูสีเทา ทั้งหมดนี้เมื่อมาแต่งรวม ก็ดูเข้ากันได้อย่างธรรมชาติ ชัดเจนว่าการออกแบบนี้ ยังแฝงความดื้อดึงขัดแย้งอยู่บ้างตามสไตล์อิทธิพลจากช่วงสงคราม เพราะอีกหนึ่งเครื่องหมายการค้าของแสกนดิเนเวียน คือ ความขัดแย้งกันของสี
แนวคิดเรียบง่ายน้อยเหมือนมินิมอล เฟอร์นิเจอร์ของแสกนดิเนเวียนจึงไม่ต้องเยอะชิ้นนัก แต่แตกต่างจากมินิมอลในเรื่องของดีไซน์ สไตล์นี้ชอบความปราณีตของเส้นสายลงบนส่วนประกอบของห้องชุด ดังเช่น สลักหน้าบานประตู หน้าบานตู้เป็นเส้นแบ่งช่อง บานหน้าต่างเองก็ดีไซน์เป็นกริดตาราง ให้ดูหรูหราน่ามองยิ่งขึ้น
และเนื่องจากอิทธิพลทางอากาศหนาวเย็นเป็นทุนเดิม สไตล์นี้จึงเลือกใช้ของตกแต่งที่ให้ความอบอุ่นอย่างหมอนอิง พรมขนสัตว์ เบาะผ้า โคมไฟ
- ห้องนั่งเล่น คือ พื้นที่สังคมส่วนกลางที่สุดของบ้านที่ทุกคนจะมาร่วมใช้ชีวิต หรือเพื่อนฝูงมาแฮงค์เอ้าท์พูดคุยกันบ้าง ดังนั้นพื้นที่นี้มักเล่นสีพื้นขาว รับแสงเต็มที่ให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบาย ชิลๆ ผ่อนคลายอารมณ์ เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ดีไซน์ทันสมัย หรือแนว MCM มามิกซ์แมชต์ พร้อมของแต่งบ้านที่เป็นเบาะนุ่มนวลแลดูอบอุ่นตามสไตล์บ้าน
- ห้องครัว พื้นที่ที่ต้องการฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากที่สุด ขณะเดียวกันก็เรียบง่าย สะอาด สวย และยังคงความปราณีตศิลป์ในแบบแสกนดิเนเวียน นิยมครัวสีขาว ปูกระเบื้องผนังเป็นกริดตาราง ท้อปเคาท์เตอร์สีไม้ ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยบิ๊วอินหน้าบานตู้สลักลายเส้นสายนิดหน่อย ก็ดูสวยเรียบแล้วค่ะ
- ห้องนอน สถานที่พักผ่อนร่างกายและจิตใจ ใช้เวลาฟื้นพลังงานชีวิตที่สำคัญที่สุดให้พร้อมสำหรับวันใหม่เสมอ เราสามารถเลือกใช้ห้องโทนสีขาว ครีม เปิดหน้าต่างให้แสงส่องถึงเพื่อรับแสงแดดกระปรี้กระเปร่าจากภายนอก ตัดโทนสีห้องด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือโทนสีอบอุ่นเดียวกันอย่างสีเทา น้ำตาล เพื่อให้รู้สึกใกล้เคียงธรรมชาติ
- ของตกแต่งจะเป็นจำพวกเบาะ แจกันดอกไม้ กระถางต้นไม้ พรมขนสัตว์ ซึ่งมีกลิ่นอายของธรรมชาติแฝงอยู่ สร้างความอบอุ่นและความสบายยิ่งขึ้น
สำหรับบ้านและคอนโดในไทยส่วนใหญ่เป็นห้องสูตรสำเร็จ ตกแต่งพร้อมอยู่ด้วยมาตรฐานด้วยพื้นไม้ กระเบื้องสีขาวหรือสีเทา และผนังยืนพื้นสีขาว เรียกว่าใกล้เคียงสไตล์แสกนดิเนเวียนมากทีเดียวค่ะ การตกแต่งเพิ่มจึงไม่ยากแต่อย่างใด เหลือแค่ซื้อเฟอร์นิเจอร์ พร๊อพต่างๆ เติมให้เข้าเซต และคุมโทนสีห้องไปในทิศทางเดียวกันค่ะ
สำหรับบ้านและคอนโดในไทยส่วนใหญ่เป็นห้องสูตรสำเร็จ ตกแต่งพร้อมอยู่ด้วยมาตรฐานด้วยพื้นไม้ กระเบื้องสีขาวหรือสีเทา และผนังยืนพื้นสีขาว เรียกว่าใกล้เคียงสไตล์แสกนดิเนเวียนมากทีเดียวค่ะ การตกแต่งเพิ่มจึงไม่ยากแต่อย่างใด เหลือแค่ซื้อเฟอร์นิเจอร์ พร๊อพต่างๆ เติมให้เข้าเซต และคุมโทนสีห้องไปในทิศทางเดียวกันค่ะ
สไตล์นี้เข้าถึงง่าย ไม่จุกจิก เป็นมิตรกับทุก Layout ห้องชุด ดีไซน์สวย ราคาไม่แพง สามารถลงมือทำได้เอง
คาแรกเตอร์ของสแกนดิเนเวียน
เคยมีคำกล่าวว่า Minimal เป็นกระแสที่มาแล้วก็จะจากไป แต่ Scandinavian ต่างหากที่เป็นตัวจริงไม่มีใครมาล้มได้ง่าย จนเป็นแรงบันดาลใจหลักในงานออกแบบของคลังเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังอย่าง “IKEA” ซึ่งปัจจุบันขยายไปทั่วโลก ทั้งราคาถูก ประกอบง่าย ใช้งานดี และมีเทรนด์ใหม่ตลอดๆ
สไตล์นี้เข้าถึงง่าย ไม่จุกจิก เป็นมิตรกับทุก Layout ห้องชุด ดีไซน์สวย ราคาไม่แพง สามารถลงมือทำได้เองตั้งแต่การออกแบบและช้อปปิ้งซื้อของเลยค่ะ
ดีไซน์แสกนดิเนเวียนเหมาะกับใคร?
เป็นอีกหนึ่งไอเดียการแต่งห้องที่เข้าได้กับทุกเพศทุกวัยไม่ต่างกับโมเดิร์น (Urban Modern) เลยค่ะ ผู้อยู่อาศัยไม่จำเป็นต้องพยายามแต่งบ้านให้สวยโดดเด่นแตกต่างจากคนอื่นมากนัก แค่จับนิดผสมหน่อยก็ได้บ้านคอนโดสวยๆ แล้วเหมือนกันค่ะ หากข้าวของชำรุดเสียหาย ก็สามารถหาเฟอร์นิเจอร์ซื้อเปลี่ยนทดแทน เปลี่ยนแบบได้อย่างง่ายๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องความแตกต่างแปลกแยกจากภาพรวมห้องชุดเลยค่ะ
หากใครสนใจแต่งบ้านเพื่อลงทุนปล่อยเช่าขายต่อ ดีไซน์นี้ถือเป็นมาตรฐานการอยู่อาศัยทั่วไป เหมาะกับห้องชุดหมุนเวียนเปลี่ยนหน้าตาผู้เช่าได้เรื่อยๆ ไม่ต้องเจาะจงเฉพาะกลุ่มมากแต่อย่างใด เพราะเป็นสไตล์กลางๆ ใครอยู่อาศัยก็รู้สึกสะดวกสบายเหมือนกัน แต่หากจะแต่งอยู่เอง ยิ่งไม่ใช่เรื่องยากใหญ่เลยค่ะ บ้านของเราสามารถเลือกตกแต่งได้ตามใจ จัดมุมสวยๆ ได้ทั้งบ้านเท่าที่ต้องการเลยค่ะ
อสังหา 101 คิดว่าแต่งบ้านสไตล์นี้ขึ้นแท่นคลาสสิกความเป็นบ้านที่สุด ตอบโจทย์การใช้งาน ทั้งสวย น่าอยู่และไม่ตกเทรนด์ง่ายๆ ด้วย หวังว่าผู้อ่านจะเลือกแบบบ้านน่าอยู่ที่ตรงใจกันได้ทุกคนนะคะ