fbpx

ทำงานจากบ้านด้วยสำนึกรับผิดชอบ (Work from Home Responsibly)

10.00 min. Read

เราพร้อมแค่ไหนในเวลานี้ที่จะทำงานจากบ้าน ผมขอแชร์ประสบการณ์เรื่องความรับผิดชอบ เทคโนโลยี และความซื่อสัตย์กับตัวเองครับ

ทำงานจากบ้านไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่พฤติกรรมใหม่นี้สร้างได้สำหรับทุกคนสำหรับทุกสถานการณ์

คุณสามารถแยกแยะพฤติกรรมการทำงานและการอยู่บ้านได้มากน้อยแค่ไหน?...

ขณะที่ผมตัดสินใจว่าจะเริ่มทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) ในสัปดาห์นี้ ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่ออกจากบริเวณที่อยู่อาศัย ไม่ถึงกับกักตัว ยังออกไปซื้อของ ออกไปรับประทานอาหาร หรือแม้กระทั่งไปทำธุระสำคัญๆ ได้ เพียงแต่ต้องดูแลรักษาตัวเองเป็นพิเศษ แค่นั้นครับ

และต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่าผมใช้หน้ากากอนามัยเป็นประจำ คนใกล้ชิดจะทราบดีครับ ผมใช้ในขณะเดินทางด้วยยานพาหนะสาธารณะต่างๆ และมักจะใช้ในบริเวณที่มีคนอยู่พลุกพล่านโดยเฉพาะในสถานที่ๆ ตัวเองไม่คุ้นเคย คนรอบข้างเลยอาจจะมองว่าผมเป็นคนป่วยอยู่ตลอดเวลา (ทั้งด้านร่างกายและจิตใจด้วย อืม…เอาเข้าไป!)

หลังจากทบทวนหลายอย่าง ผมก็เลยตัดสินใจเขียนบทความ “Work From Home Responsibly” (ทำงานจากบ้านด้วยสำนึกรับผิดชอบ) นี้ขึ้นมา

อย่างน้อยก็ได้เก็บประสบการณ์ไว้อ่านเองบ้าง แบ่งให้ท่านที่สนใจอ่านบ้าง และขอเรียนว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นครับ

ที่จริงแล้วเรื่องทำงานจากบ้าน “Work From Home” ไม่ใช่เรื่องใหม่ในด้านแนวคิด แต่อาจจะเป็นเรื่องใหม่ในเชิงพฤติกรรมสำหรับหลายๆ ท่านมากกว่าครับ

และจากประสบการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา สิ่งที่ผมเห็นว่าสำคัญคือเรื่องดังต่อไปนี้นะครับ

คุณมีความพร้อมในเรื่องความรับผิดชอบหรือเปล่า? (Responsibility)

เมื่อผมมีโอกาสทำงานจากบ้าน “Work From Home” ผมตื่นเวลาเดิม (ประมาณ 6:30 น. หรือบางทีก็ก่อนหลังบ้างเล็กน้อย).

ผมไม่เสียเวลาเดินทางครับ ฉะนั้นคุณจะได้เวลาเพิ่มในการเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานวันนั้น แทนที่จะเสียเวลาอยู่บนถนน และที่สำคัญข้อแก้ตัวว่า “รถติด” ก็จะหมดไป

ผมแต่งตัว Smart Casual และดูแลตัวเองเหมือนเดิมเมื่อต้องทำงานจากบ้าน “Work From Home”

ผมไม่ได้เลือกการแต่งกายที่ดูทางการครับ แต่ก็ไม่ได้แต่งแบบสบายๆ เหมือนวันหยุดทั่วๆ ไป ยังใช้ Skincare ชุดเดิมที่ใช้ทุกวัน น้ำหอมกลิ่นโปรด เซ็ทผมเหมือนๆ เดิม ทำกิจกรรมต่างๆ เหมือนวันทำงานทั่วไป ด้วยความคิดที่ว่าถ้าร่างกายและจิตใจคุณพร้อมที่จะทำงาน คุณก็จะได้ประสิทธิภาพในการทำงานเหมือนเดิมเช่นกัน (แม้สถานที่จะเปลี่ยนไป)

และเริ่มทำงานเวลาเดิม (ไม่ว่าจะเป็นการอ่านอีเมล์ ข้อความต่างๆ ดูตารางเวลานัด ฯลฯ)

เริ่มจากรับผิดชอบต่อตัวเอง (และสังคม ในช่วงเวลานี้) รับผิดชอบต่อหน้าที่ และรับผิดชอบต่อองค์กร แค่นี้ก็น่าจะเป็นจุดตั้งต้นที่ดีของการทำงานจากบ้าน “Work From Home” ได้ครับ

work from home
www.unsplash.com

คุณมีความพร้อมเรื่องเทคโนโลยีที่จะช่วยคุณทำงานมากน้อยแค่ไหน? (Technology)

ยังนึกอยู่ทุกวันนี้ว่าตัวเองโชคดีที่เกิดมาในยุครอยต่อระหว่าง Analog และ Digital ยอมรับว่าเทคโนโลยีไปไวมาก จนเคยมีทฤษฎีหนึ่งที่เคยได้ยินว่าให้เปลี่ยนโทรศัพท์ทุกๆ 2 ปี ไม่งั้นเราจะกลายเป็นคนล้าหลัง

ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ในการสื่อสารเท่านั้นครับ แต่เทคโนโลยีต่างๆ ที่สามารถช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เราต้องนึกถึงท่านที่ต้องใช้อุปกรณ์จำเพาะในการทำงานด้วยครับว่ามีความพร้อมแค่ไหน

และประเด็นอาจต้องถามไปถึงความพร้อมขององค์กรด้วยว่ายินดีสนับสนุนมากน้อยแค่ไหน

พร้อมกันนี้พนักงานทุกท่านก็ต้องมีพัฒนาการด้านเทคโนโลยีส่วนตัวด้วย คุณมีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนรูปแบบของพฤติกรรมการทำงานของตัวเองอย่างไรให้สอดคล้องกับสภาวะการณ์ต่างๆ

ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เวลาทำการประชุมทางโทรศัพท์ (Telecon) นั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ เช่น การพูดทีละคน คนที่ไม่พูดควรจะปิดไมค์ (เพราะเสียงจะซ้อนกัน) นอกเหนือจากการตรงต่อเวลาและความพร้อมของผู้เข้าร่วมประชุมและสถานที่ เป็นต้น

ฉะนั้น Workstation ที่บ้านของคุณพร้อมแล้วหรือยังครับ

คุณซื่อสัตย์กับตัวคุณเองมากน้อยแค่ไหน? (Integrity)

เรามีพฤติกรรมแตกต่างกันในสถานที่ๆ แตกต่างกัน และบางทีคนรอบข้างเราก็เป็นอย่างนั้นเช่นกันครับ

ไม่แปลกอะไรที่คนที่บ้านเห็นคุณอยู่บ้านแล้วนึกว่าวันนี้เป็นวันหยุดของคุณ และมักจะทำให้คุณเสียสมาธิในการทำงานเสมอๆ

ที่สำคัญคุณสามารถแยกแยะพฤติกรรมการทำงานและการอยู่บ้านได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อพฤติกรรมและสถานที่มีความขัดแย้งกันน่าจะเป็นเหตุกระทบต่อประสิทธิภาพของการทำงานได้ไม่มากก็น้อย เพราะเวลาทำงานที่บ้านไม่มีแรงกระตุ้นที่อยากให้ทำงาน แต่จะเป็นการกระตุ้นไปในเชิงการพักผ่อนมากกว่า

แต่พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงได้ถ้าคุณมีโอกาสฝึกหัดให้คุ้นเคย บางท่านใช้เวลามากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่เหตุการณ์

แต่เวลาทำงาน คุณยังพักรับประทานอาหารได้เหมือนเดิม หาเวลาเบรคคลายเครียดได้ คุณเลิกงานเวลาเดิมได้ แต่องค์กรต้องขับเคลื่อนต่อไปครับ และยอมรับว่าหลายๆ ท่านก็ต้องทำงานนอกเวลากันเสมอๆ

สำหรับผม ความซื่อสัตย์ต่อตัวเองเลยกลายเป็นประเด็นสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีแรงกระตุ้นในการทำงานในสถานที่ๆ ไม่ใช่ที่ทำงาน

ในระยะเวลาเช่นนี้ ความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างองค์กรและพนักงานน่าจะมีความสำคัญที่สุดครับ ลองมองในมุมพนักงานและมุมขององค์กรไปพร้อมๆ กัน

คุยกันถึงเรื่องความคาดหวังในแต่ละมุมและร่วมกันหาทางออกที่ลงตัวสำหรับทุกฝ่ายน่าจะเป็นการดีที่สุด

ความซื่อสัตย์ต่อตัวเองเลยกลายเป็นประเด็นสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณมีแรงกระตุ้นในการทำงานในสถานที่ๆ ไม่ใช่ที่ทำงาน

และสุดท้ายนี้การทำงานจากบ้าน “Work From Home” จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เมื่อทุกคนทำงานได้จากที่บ้านหรือทุกๆ ที่

ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ…

Content Creator: Pitiporn Jutisiriwatana



Copy link