เปิดไอเดียแต่งบ้านน่าอยู่ สไตล์มิดเซนจูรี่ โมเดิร์น (Mid-Century Modern)
การแต่งบ้านก็เหมือนงานศิลปะประเภทหนึ่ง ที่ต้องอาศัยแรงบันดาลใจบางอย่างเพื่อจุดประกายความคิด อาจเป็นความชอบ หรือความอยากเปลี่ยนแปลง ฯลฯ แล้วจึงวาดภาพบ้านที่เราอยากจะมีอยากจะเป็นในหัว ก่อนจะถ่ายทอดออกมาเป็นรูปธรรม คล้ายผลงานชิ้นเอก แต่การแต่งบ้านแตกต่างกับงานศิลปะ ที่ไม่ใช่มีไว้แค่โชว์ แต่มีไว้เพื่ออยู่ด้วย
ไอเดียการแต่งบ้านมีหลากหลายประเภท สิ่งสำคัญคือเราต้องค้นหาตัวตนจริงๆ ว่าแท้จริงแล้วเราชอบอะไร? แบบไหน? อย่างไร? เพราะองค์ประกอบของบ้านแต่ละอย่าง ไม่สามารถปรับเปลี่ยนปุบปัปได้ง่ายดายแค่โยนทิ้ง หากเริ่มต้นแล้วก็ต้องไปต่อจนจบ
ไอเดียการแต่งบ้านมีหลากหลายประเภท สิ่งสำคัญคือเราต้องค้นหาตัวตนจริงๆ ว่าแท้จริงแล้วเราชอบอะไร?
ถ้าเช่นนั้นแล้ว มาร่วมค้นหาอีกหนึ่งตัวตนความเป็นเราดูมั้ยคะ? กับการแต่งบ้านสไตล์ “มิดเซนจูรี่ โมเดิร์น” ไอเดียการแต่งบ้านที่เริ่มต้นจากความสับสน จนพบทางออกด้วยการสลัดภาพเดิมๆ แล้วปรุงแต่งเป็นแบบฉบับของตนเองลงไปในที่สุด
สไตล์มิดเซนจูรี่ โมเดิร์นคืออะไร?
คือ สไตล์การออกแบบบ้านแนวย้อนอดีตวันเก่าๆ ที่ทรงเสน่ห์จากยุคกลางศตวรรษที่ 20 จะว่าเก่าก็ไม่เชิงจะว่าใหม่ก็ไม่ใช่ เพราะผลงานการออกแบบทั้งการตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ในยุคนั้นยังคงกระหึ่มโลก ใช้งานกันเกลื่อนกลาดอยู่ทุกวันนี้ ซ้ำยังปรับเปลี่ยนหน้าตาให้ทันกับยุคสมัยอยู่ตลอดโดยไม่ทิ้งกลิ่นอายเดิม
แรงบันดาลใจของมิดเซนจูรี่ โมเดิร์น
“หล่อแบบเจมส์ ดีน และ สวยแบบออเดรย์ เฮบเบิร์น”
ความคิดแรกที่เข้ามา คือ สัญลักษณ์ของความคลาสสิคตลอดกาลของยุคเรโทร (Retro) ตามมาด้วยภาพ Iconic โดดเด่นของยุคนั้น ผ่านรูปภาพขาวดำ แฟชั่นกระโปรงบานของหญิงสาวผมดัดลอน และเสื้อเชิ๊ตกางเกงสแลคของชายหนุ่มสวมหมวกทรงคลาสสิก ยืนพูดคุยอยู่ริมแนวผนังอิฐ ทอดยาวเห็นตึกรามบ้านช่องที่ได้รับการฟื้นฟูเตรียมตัวเข้าสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่อย่างเต็มรูปแบบ
อิทธิพลของดีไซน์อันโด่งดังนี้ ดั้งเดิมแล้วเกิดขึ้นที่เยอรมันนีโดยสถาบันเบาว์เฮาส์ (Bauhaus) เมื่อเหล่าดีไซน์เนอร์ สถาปนิกจากสถาบันต้องอพยพย้ายถิ่นฐานไปยังสหรัฐอเมริกาช่วงยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1945-1970 จึงเป็นโอกาสแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม ฟื้นฟูบ้านเมืองและเศรษฐกิจ ด้วยศิลปะแบบใหม่ อีกทั้งยังเป็นปีที่มีอัตราทารกเกิดขึ้นสูงสุด จนเป็นจุดเริ่มต้นของ Baby Boomers Generation
แรงบันดาลใจหลักเริ่มถ่ายทอดผ่านงานศิลปะที่ฉีกแนวจากความสับสนวุ่นวาย รุนแรง สไตล์จับต้องไม่ได้แบบ Abstract กลายเป็นบทบาทใหม่ในรูปแบบเรขาคณิตอย่างไม่เป็นทางการ เส้นสายตัดเหลี่ยมตัดกลม เพื่อแสดงถึงความอิสระ การปลดปล่อย และความสงบ อีกทั้งไม่ได้จำกัดแค่ภาพที่เราเห็น แต่ยังเชื่อมต่อกับแขนงต่างๆ เช่น ศิลปะ สินค้า ผลิตภัณฑ์ กราฟฟิก สถาปัตยกรรม ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลได้ถ่ายทอดมาสู่ยุคปัจจุบัน จนกลายเป็นหน้าตาของดีไซน์ตกแต่งบ้านที่เรียกว่า Mid-Century Modern (MCM) นั่นเอง
หัวใจหลักของงานดีไซน์
งานดีไซน์ประเภทนี้ จะเกลี้ยงเกลาเรียบง่าย เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่ลดทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อสื่อให้บ้านเป็นที่พักพิงและย้อนคืนความสุขจากความวุ่นวายที่ผ่านมา อีกทั้งยังประยุกต์งานภายนอกเข้าสู่ภายในแบบเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ด้วยบานกระจกบานใหญ่และดีไซน์ที่เปิดรับแสงมากขึ้น
แน่นอนว่า“มิดเซน”ยังต้อนรับงานตกแต่งจำพวกเสาคานอิฐซึ่งแฝงอยู่ในงานออกแบบ อันมีแรงจูงใจมาจากดีไซน์ของโรงงานอุตสาหกรรมของอเมริกาใน ยุคนั้นๆ แต่ถึงอย่างไร ก็ยังมีความนุ่มนวลผ่านลูกเล่นของแม่สีโดดเด่นของยุค อย่างสีไม้ธรรมชาติ สีเหลืองมัสตาร์ด สีเขียววินเทจ สีส้มอิฐ ตัดเฉดให้ห้องดูอนุรักษ์นิยมแบบไม่เหมือนใคร
เฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง
มิดเซนจูรี่ชอบโทนสีแนวคลาสสิกแตกต่างจากใครเพื่อน ดังเช่น Pantone Pattern อย่าง Tangerine & Brown, Chartreuse & Gray, Teal Brown & White หรือ Wood & White ยิ่งมิกซ์แอนด์แมชต์ได้ดีจะยิ่งสร้างบ้านของเราให้สวยงามยิ่งขึ้น
ด้วยอิทธิพลของสงครามโลก วัสดุที่ใช้จึงจำต้องลดทอนและปรับเปลี่ยนเป็นพลาสติก กระจก ไม้อัด โลหะ ซึ่งวัสดุเหล่านี้ก็สร้างผลงานและคุณภาพชั้นเยี่ยมได้มาจนถึงทุกวันนี้
ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์เรียกว่าเป็นไฮไลท์ที่สุด เพราะดีไซน์ต่างๆ ในยุคนั้นยังคงใช้งานจริง และเข้ากับดีไซน์ประเภทอื่นๆ ได้เสมือนมีจุดกำเนิดจากรุ่นเดียวกัน ดีไซน์ที่เด่นดังเห็นผ่านตาอยู่เรื่อยๆ ดังเช่น Bauhaus, Eames Fiberglass Armchair, Eero Saarinen the Organic Chair และ Sputnik Chandelier
- ห้องนั่งเล่น คือศูนย์รวมของสมาชิกในครอบครัวที่จะพบปะสังสรรค์สร้างความสัมพันธ์ดีๆ ต่อกัน เราอาจใช้สีขาวเป็นสีกลางคุมอารมณ์ความอบอุ่น ทั้งยังดูเรียบทันสมัยและกว้างขวางแม้ในพื้นที่จำกัดได้อีกด้วย ตกแต่งด้วยโซฟาเบาะ พร้อมหมอนอิงตัดสีสไตล์มิดเซน ช่วยเพิ่มมิติของห้อง
- ห้องครัว อีกหนึ่งสถานที่ที่ให้ความรู้สึกสะอาด และเป็นระเบียบ เราอาจสร้างครัวคุมโทนสีขาวเช่นกัน ท้อปเคาท์เตอร์สีไม้ และเก้าอี้สตูลไม้ขาตั้งโปร่ง เสริมด้วยงานตกแต่งโคมไฟสีทองเหลือง ก็ได้กลิ่นอายมิดเซนนิดๆ แล้วค่ะ
- ห้องนอน คือสถานที่เริ่มต้นและปิดท้ายของวัน ที่ซึ่งเราใช้เวลาส่วนตัวมากที่สุดจึงสมควรได้รับการออกแบบอย่างอบอุ่น สบายและพักผ่อนได้ดีที่สุด ควรเน้นงานไม้ที่ช่วยสร้างบรรยากาศธรรมชาติภายในห้อง เช่น พื้นไม้ เฟอร์นิเจอร์สีไม้ธรรมชาติ โคมไฟฝังฝ้า ซึ่งยังคงความเรียบไว้อยู่
สำหรับอสังหาริมทรัพย์บ้านและคอนโดในไทย มักมีสร้างมาตรฐานการส่งมอบด้วยพื้นไม้ หรือพื้นกระเบื้อง ผนังขาวเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการตกแต่งเราควรเน้นที่สีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของมิดเซนจูรี่โมเดิร์นในห้อง ดังเช่น สีผนัง และเลือกรูปแบบเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เฉพาะจากยุคกลาง ประดับด้วยของตกแต่งวินเทจนิดๆ ก็เพียงพอแล้วค่ะ
เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไฮไลท์ที่สุด เพราะดีไซน์ต่างๆ ในยุคนั้นยังคงใช้งานจริง... เข้ากับดีไซน์ประเภทอื่นๆ ได้เสมือนมีจุดกำเนิดจากรุ่นเดียวกัน
คาแรกเตอร์ของมิดเซนจูรี่โมเดิร์น
การแต่งบ้านสไตล์นี้สนุกกว่าที่คิด เพราะนิสัยของดีไซน์บ้านมิดเซนจูรี่สะท้อนบุคลิกตัวตนของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกลุ่มคนกล้าจะแตกต่างในยุคแห่งเทคโนโลยีจัดๆ เร่งรีบจนงานออกแบบปัจจุบันหลุดโลกไปบ้างก็เยอะ
ดังนั้น ชาวมิดเซนจูรี่โมเดิร์นต้องเป็นผู้ที่หลงรักยุคเรโทร ชอบความคลาสสิกเป็นทุนเดิม ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ปฏิเสธเทคโนโลยีทันสมัย แค่ไม่จำเป็นต้องก้าวล้ำยุคกว่าใคร แต่เลือกเอาคาแรกเตอร์โดดเด่นของ MCM มาปรับให้เข้ากับตัวเอง
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าตัวเราเองเหมาะกับดีไซน์ยุคมิดเซนจูรี่มากแค่ไหน อาจลองเปิดใจดูเสน่ห์ด้านอื่นของยุคนี้บ้าง อย่างเช่น แฟชั่นการแต่งกาย ดนตรี เครื่องเล่นแผ่นเสียง ของแต่งบ้านอย่างนาฬิกาทราย กรอบรูป หนังสือวินเทจ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้ดีไซน์สวยเก๋ อาจทำให้เราหลงรักจนอยากเนรมิตบ้านไปยุคเก่าเลยก็ได้
ดีไซน์มิดเซนจูรี่โมเดิร์นเหมาะกับใคร?
ด้วยภาพลักษณ์ของ MCM ที่โดดเด่นและน่าทึ่งนี้ นอกจากเป็นแฟนเรโทรแล้ว อาจเหมาะกับคนที่มีบุคลิกเปิดเผย ชอบเข้าสังคม พร้อมอวดโฉมบ้านและแนวคิดการตกแต่ง มีสุนทรียะในงานศิลป์ มีความเรียบง่ายแต่ก็สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เสมอ
สไตล์การแต่งบ้านนี้เหมาะกับบ้านหรือคอนโดทุกประเภท เพราะ ยืนพื้นด้วยผนังโทนสีขาว พื้นไม้ กระจกระเบียงหน้ากว้าง แล้วจึงแต่งเติมด้วยเฟอร์นิเจอร์สีสันเฉพาะตัวเป็นสำคัญ หาซื้อง่ายตามร้านเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำ เข้าคู่กับแนวการแต่งบ้านได้เกือบทุกแบบค่ะ เป็นไอเดียแต่งบ้านเพื่ออยู่อาศัยเองหรือปล่อยเช่าก็ให้ความรู้สึกพิเศษสำหรับผู้อยู่อาศัยทั้งคู่ค่ะ
อสังหา101 มองว่าการตกแต่งสไตล์นี้สามารถออกแบบได้กับบ้านทุกประเภทหรือตกแต่งเป็นห้องๆ ไปก็ได้ อย่างไรแล้วโฟกัสผู้อยู่อาศัยที่หลงรักและเข้าถึงเสน่ห์ของยุคเรโทรจริงๆ น่าจะสนุกที่สุดค่ะ