ชาวต่างชาติซื้อคอนโดในไทย เริ่มต้นอย่างไรดี?
หลายๆ คนคงทราบกันบ้างแล้วว่าประเทศไทยเรา ยินดีต้อนรับชาวต่างชาติในการถือครองกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ไทย ในรูปแบบของอาคารชุดหรือคอนโดมิเนียมได้ ก็ไม่น่าแปลกใจอะไรที่ที่พักอาศัยประเภทนี้จะเป็นที่นิยมตลอดกาล ดีเวลลอปเปอร์เจ้าใหญ่เรียกว่าแทบทุกเจ้า ต่างพากันแย่งหาซื้อที่ดินทุกตรอกซอกมุมในกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่ เสียจนแทบทุกพื้นที่ และไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้นมีต่างไขว้คว้าบ้านในเมือง แต่กรุงเทพมหานครของเรายังเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับกลุ่มคนต่างชาติ โดยเฉพาะความนิยมล่าสุด คือ กลุ่มต่างชาติวัยเกษียณ
วันนี้ Property 101 Thailand จึงขอนำเสนอเรื่องควรรู้ของชาวต่างชาติหากสนใจซื้อคอนโดในไทยกันหน่อยดีกว่าค่ะ ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร ?
1. เรียนรู้ทำเลและสถานที่
หลายๆ ครั้งคอนโดอาคารชุดต่างๆ จะล่อตาล่อใจเราด้วยรูปแบบอาคาร ส่วนกลาง พื้นที่ใช้สอย โดยเฉพาะราคาหรือโปรโมชั่นที่น่าดึงดูดใจ คุ้มสุดๆ จนตาลุกวาว แต่สิ่งสำคัญที่จำเป็นมากๆ คือ ทำเล ซึ่งไม่ว่าคนไทยหรือต่างชาติ ก็รับทราบดีว่าเรื่องนี้นับว่าปัจจัยสำคัญเบอร์แรก แต่สำหรับชาวต่างชาติ เราขอลงรายละเอียดลึกลงไปอีกหน่อยดีกว่าค่ะ ว่าทำไมทำเลถึงเป็นสิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญกว่าคนไทยกันเองหลายเท่าตัว
อันดับแรก ต่างชาติโดยส่วนใหญ่ไม่ได้ขับขี่รถยนต์ส่วนตัวในประเทศไทย การจะหาซื้อรถมีใบขับขี่เพื่อเข้าใจเส้นทางจราจรและป้ายภาษาไทยต่างๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ดังนั้น ความนิยมที่สุด คือ เดินทางโดยรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ขนส่งสาธารณะต่างๆ ที่สามารถช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างสะดวก ดูแลตัวเองได้ ทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตได้อีกเยอะ
ทำไมทำเลถึงเป็นสิ่งที่ชาวต่างขาติต้องให้ความสำคัญกว่าคนไทยกันเองหลายเท่าตัว
ไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่ย่านของกินของใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ ก็สำคัญไม่น้อยกว่ากัน อย่างน้อยมีซุปเปอร์มาร์เกตหรือห้างเล็กๆ ให้ได้ซื้อหาอาหารใกล้เคียงสไตล์คุ้นเคยกับถิ่นกำเนิดก็นับว่าเป็นความจำเป็นอันดับรองลงมา อาหารไทยอร่อยต่างชาติพากันยกย่อง แต่ก็อาจจะไม่ใช่อาหารในชีวิตประจำวันของคนต่างชาติที่ทานได้ทุกมื้อเหมือนคนไทยแท้ๆ ค่ะ ไม่เช่นนั้น China Town ที่เยาวราช Japanese Town ที่สุขุมวิท หรือ Korean Town ที่อโศกก็จะไม่เกิดขึ้นมาได้ ดังนั้น เรื่องนี้ก็อย่าได้มองข้ามค่ะ
ถัดมาในเรื่องทำเล ที่ต่างชาติมองหา คือ สถานที่ที่ให้ความปลอดภัย ทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งก็หมายรวมถึงทุกคนทั้งไทยและต่างชาติ แต่อุปสรรคทางภาษา จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ชาวต่างชาติจะเสียเปรียบคนท้องถิ่นอย่างสิ้นเชิง ในการที่จะขอความช่วยเหลือ แจ้งความ หรือร้องทุกข์ใดๆ ก็ตาม ดังนั้นในย่านที่อยู่อาศัยต้องเรียกว่ามีคุณภาพชีวิตที่ยกระดับ ใจกลางเมือง หรืออาจจะเป็นชานเมืองในที่ที่ความเจริญเข้าถึง ไม่ใช่แหล่งชุมชนโฮมเลส คนไร้บ้านหรือซ่องสุมยาเสพติด แม้ที่ดินหรือที่อยู่อาศัยจะราคาถูกลง แต่ก็ไม่คุ้มที่จะเสี่ยงภัยเช่นกันค่ะ
และสุดท้ายเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มต่างชาติวัยเกษียณที่มองหาประเทศไทยเป็นเป้าหมายการใช้ชีวิต อาจต้องเพิ่มตัวเลือกของโรงพยาบาลใกล้เคียงเข้าไปอีกหน่อย มีเส้นทางจราจรตรอกซอกซอยที่หาทางลัดทางสะดวก เดินทางถึงโรงพยาบาลได้ว่องไว ส่วนระดับของโรงพยาบาลเป็นแบบไหนก็ตามแต่กำลังทรัพย์ของแต่ละคนแตกต่างกันไปค่ะ
เมื่อทำเลนั้นควบคู่ตอบโจทย์ทุกมิติการใช้ชีวิตได้แล้วก็นับว่าผ่านเช็กลิสข้อแรกค่ะ
2. เช็กอัตราส่วนกรรมสิทธิ์คนต่างด้าวหรือ Foreign Quota
ไม่ว่าจะซื้อโครงการมือหนึ่งโดยตรงจากผู้พัฒนาโครงการ หรือ ซื้อมือสองต่อจากผู้ขายทั่วไปนั้น ก็ต้องเช็กอัตราส่วนกรรมสิทธิ์ ซึ่งโอกาสของการถือของสัดส่วนไม่เกิน 49% ของโครงการมือหนึ่งจะได้เปรียบกว่า การจะเต็มหรือไม่เต็มโควต้าขึ้นอยู่กับช่วงเวลาการโอนกรรมสิทธิ์ ถ้าเราโอนฯ เร็วก็นับว่าได้พื้นที่โควต้านั้นก่อนผู้ซื้อชาวต่างชาติคนอื่นๆ ค่ะ โดยการเช็กก็สามารถเช็กได้จากพนักงานขายโครงการให้ดีก่อนที่จะจอง ทำสัญญาและโอนกรรมสิทธิ์นะคะ
ส่วนห้องชุดคอนโดมือสองหรือโครงการที่ผ่านการซื้อขายโอนมาซักระยะแล้วนั้น สัดส่วนต่างชาติจะค่อนข้างนิ่งกว่า เนื่องจากอาจเกิดการเปลี่ยนมือถ่ายโอนให้ผู้ซื้อใหม่มาซื้อต่อเป็นคนไทยก็มีเยอะ หรือคนไทยขายต่างชาติก็ยังมีให้พอเห็น ดังนั้นวิธีการเช็ก ให้เราเช็กกับนิติบุคคลอาคารชุดนั้นๆ ให้แน่ใจว่ายังคงเหลือโควต้าก่อนจะตัดสินใจจองค่ะ
สำหรับโครงการที่พักตากอากาศ คอนโดริมทะเลอย่างพัทยา ภูเก็ต ซึ่งฮอตฮิตติดเทรนด์ทุกสำนักทั่วโลก อัตราส่วนคนต่างชาติถือครองก็จะหมดเร็วอันเนื่องมาจากความนิยมของหัวเมืองใหญ่ติดอันดับโลกนั่นเองค่ะ
3. เส้นทางการเงินการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ไทย
เมื่อถูกใจทำเลและโครงการในใจคร่าวๆ แล้ว ก็ถึงเวลาดูเงินในกระเป๋ากันบ้างค่ะ เริ่มตั้งแต่ราคาห้องสมเหตุสมผลกับขนาดพื้นที่ ทำเลที่ดินย่านนั้นๆ มีทิศทางการเจริญเติบโตจะเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน สเปกเฟอร์นิเจอร์สิ่งของในห้องชุดที่ได้รับว่าใหม่เอี่ยมอ่อง ใช้การได้หรือเสื่อมโทรมผุผังไปตามสภาพแล้ว ค่าส่วนกลาง ค่าประกันรายปี ค่าซ่อมแซมงานหลังหมดประกันโครงการ หรือพูดง่ายๆ ว่าค่าทำนุบำรุงหลังจากนี้มีอะไรบ้าง ใดๆ ล้วนเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องสำรองเงินอย่างเพียงพอ
อีกอย่าง คือ กฎการซื้อขายของชาวต่างชาติคือต้องโอนเงินตราต่างประเทศเข้ามาเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม) เทียบเท่ากับจำนวนมูลค่าห้องชุด ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นก็คือค่าธรรมเนียมธนาคาร และส่วนต่างของการแลกเปลี่ยนสกุลเงินค่ะ แต่การดูแลใดๆ หลังจากนี้ก็สามารถชำระจ่ายทุกอย่างเป็นเงินสกุลไทยบาทได้ตามปกติ ดังนั้น ชาวต่างชาติที่ซื้ออสังหาฯ ในไทยอย่างไรก็เสียสตางค์ค่าใช้จ่ายที่มากกว่าประชาชนคนไทยอยู่บ้าง จึงจำเป็นต้องเข้าใจเรื่องนี้ให้ถ่องแท้เสียก่อน
สำหรับการขายต่อในอนาคตที่เกิดขึ้น โดยขั้นตอนจะไม่แตกต่างกับการซื้อมากนัก แต่เรื่องควรทราบ คือ เอกสารการเงินคือสิ่งสำคัญที่ชาวต่างชาติทุกคนต้องเก็บไว้อย่างดีตั้งแต่การซื้อขายวันแรก เพื่อยื่นแสดงต่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการในวันที่ขายต่อห้องชุดนะคะ
ค่าใช้จ่ายของชาวต่างชาติที่มากกว่าคนไทย จึงจำเป็นต้องเข้าใจเรื่องนี้ให้ถ่องแท้เสียก่อน
4. ประกันภัยทรัพย์สิน
โดยมากวัฒนธรรมของชาวต่างชาติจะคำนึงถึงการทำประกันภัยห้องชุดและทรัพย์สินเพื่อกรณีเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด นับว่าเป็นความรอบคอบที่ผู้อยู่อาศัยควรคำนึงถึงความสูญเสียและความเสียหายต่อทรัพย์สิน อันเนื่องมากจากภัยจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า ภัยระเบิด ภัยจากน้ำ ภัยจากยวดยานพาหนะ ภัยจากการโจรกรรม ภัยจากบุคคลภายนอก และอีกสารพัดภัยค่ะ ปัจจุบันมีบริษัทประกันภัยมากมายให้บริการในประเทศไทย คุ้มครองได้หลายรูปแบบตามความต้องการของเรา ดังนั้น ทันทีที่คุณซื้ออสังหาริมทรัพย์ใดๆ แล้ว การทำประกันภัยควรเป็นสิ่งที่ริ่เริ่มโดยทันที
5. เลือกใช้เอเจ้นท์ที่มีประสบการณ์และมืออาชีพ
Property 101 Thailand อธิบายหลักการจำเป็นมาตั้งแต่ต้น แต่ในความเป็นจริง การจะเรียนรู้และเข้าใจ ปรับตัวให้เข้ากับเมืองนั้นๆ ประเทศนั้นๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทำได้เร็ว อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดคืออุปสรรคทางภาษา ตามด้วยขั้นตอนการติดต่อราชการ ธนาคาร นิติบุคคลฯ ดังนั้น การเลือกใช้บริการเอเจ้นท์ที่เชี่ยวชาญการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ดูแลอย่างมืออาชีพ และดำเนินการครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและคุ้มค่าต่อการเลือกที่พักอาศัย ไม่ว่าจะอยู่เองหรือลงทุนก็ตาม
ให้เราดูแลคุณซิคะ
Photo Credit:
www.unsplash.com