สมดุลของชีวิตที่ The ESSE Sukhumvit 36
ชื่อว่า “สิงห์”…คำๆ นี้ไม่มีใครไม่รู้จัก แบรนด์ที่คนไทยติดหู ติดปาก และติดใจ… ชัดเจนว่าเป็นเพราะธุรกิจเครือข่ายใหญ่คลอบคลุมทุกแขนงในชีวิต ตั้งแต่ Food & Baverage, Material, Energy, Packaging, Logistic, Hospitality ไปจนถึง Residential… ไม่ว่าจะบทบาทใดๆ ความแกร่งของ “สิงห์” ได้ขึ้นแท่น Top of Mind Brand ที่น่าจับตา…
ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ค่ายยักษ์ใหญ่ลงสู่สนามธุรกิจอสังหา เดินหน้าเปิดตัวโครงการติดๆ กัน เรียกความฮือฮาและความสนใจจากผู้คนอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะหนึ่งในโครงการนำทัพกับภาพลักษณ์ Super Luxury Branding ได้เชื้อเชิญให้ผู้พบเห็นล้วนอยากสัมผัสด้วยตนเอง ชื่อนั้นคือ “The ESSE Sukhumvit 36”
Singha Estate ในนามของผู้พัฒนาโครงการ ได้กว้านซื้อที่ดินติดถนนสุขุมวิท กว่า 2.5 ไร่ ด้วยมุ่งหวังสร้าง “โครงการในเมืองที่ดีที่สุด บนทำเลที่เยี่ยมยอดที่สุด และมีศักยภาพสูงที่สุด” ทั้งยังเป็นโครงการแรกที่ Joint Venture (JV) จับมือร่วมกับบริษัทข้ามชาติอย่าง HKL (Thai Developments) Limited ในกลุ่มของ Hongkong Land Holdings Limited บริษัทมหาชนขนาดใหญ่ของเกาะฮ่องกง ผู้ลงทุนพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ ระดับ Luxury and Prime Property มีผลงานปรากฎทั่วภาคพื้นเอเชีย เช่น ฮ่องกง จีน สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และ…กรุงเทพมหานคร
Joint Venture ส่งผลดีอย่างไรนะหรือ?
หากพูดกันโดยทั่วไป คงแทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่างใครจะสร้างก็เหมือนกัน แต่รายละเอียดเชิงลึกนั้น…มันเข้มข้นกว่ามาก นอกเหนือจากประโยชน์เชิงธุรกิจของผู้ร่วมค้ากันเองแล้ว สิ่งสำคัญ คือ การขยายประโยชน์ส่งต่อให้กับลูกค้า มองง่ายๆ เริ่มจากด้านความเป็นอยู่ JV สามารถช่วยยกระดับมูลค่าและรูปแบบโครงการ จากการถ่ายทอดเทคโนโลยีและมาตรฐานแบบ Worldwide ตามด้วยความเชื่อมั่นคุณภาพของงานก่อสร้างที่ได้รับการควบคุมโดยมีชื่อเสียงเป็นประกัน หรือด้านการลงทุนเองก็ตาม… Collaborative Business เป็นเสมือน Platform & Hub ช่วยดึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายต่างชาติที่มีกำลังทรัพย์ให้เข้าถึงและหมุนเวียน Resales & Leasing ได้มากกว่าข้อจำกัดเดิมๆ
ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์มาเอง ชื่อเสียงโครงการไม่หยุดอยู่ที่ไทยแน่นอน…
JV สามารถช่วยยกระดับมูลค่าและรูปแบบโครงการ จากการถ่ายทอดเทคโนโลยีและมาตรฐานแบบ Worldwide
ในวันนี้ “ดิ เอส สุขุมวิท 36” โครงการ High Rise 43 ชั้น 338 ยูนิต ระดับ Super Luxury เปิดโฉมโครงการด้วยคอนเซปต์ “A Harmony of Contrast” หรือสมดุลแห่งความต่าง อันเป็นนิยามอัตลักษณ์เฉพาะที่แห่งนี้ ประโยคย้อนแย้งเช่นนี้…น่าสนใจ สิ่งใดคือความแตกต่าง? สิ่งใดคือความสมดุล? และ ESSE รักษาซึ่งความสมดุลนั้นอย่างไร? ผู้เขียนวิเคราะห์ ดังนี้
สมดุลสถานที่
โครงการตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ซอย 36 ติดกับรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อเพียง 20 ม. เป็นทำเลใจกลางมหานคร ที่ซึ่งมีมูลค่าที่ดินพุ่งสูงที่สุดกว่า 2.8 ล้านบาทต่อตร.ว เชื่อมต่อเส้นสุขุมวิททั้งสาย และอยู่ระหว่างซอยทองหล่อกับถนนพระราม 4
ทองหล่อ…เป็นพื้นที่ที่น่าอยู่แห่งหนึ่งของกรุงเทพ ทุกตรอกซอกซอยถนนเต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์นานาชาติแบบ Hollywood Street ร้านค้า ร้านอาหาร คอมมูนิตี้ คาเฟ่แบบเกาหลี เบเกอร์รี่แบบญี่ปุ่น ผับบาร์สไตล์ยุโรปก็มีครบ ทั้งยังมี High Class Condo ผุดขึ้นเหมือนแมนชั่นย่านคนดังแบบ Baverly Hill อีกมากมาย ถนนสายนี้ คือ สีสันของชีวิตที่สนุกสุดเหวี่ยง หากเทียบแล้ว…ก็เหมือนคนช่วงวัย 20 ปลายๆ
พระราม 4…เส้นถนนออฟฟิศสำนักงานชั้นแนวหน้า Grade A เรียงแถวยาวถึงเส้นสีลมห่างกันเพียง 10 นาที ถนนเส้นนี้สะท้อนวัยแห่งการทำงาน ความเจริญก้าวหน้า เทคโนโลยี ความทันสมัย และความมั่นคง ในภาพของคนวัย 30 ต้นๆ
บรรจบที่สมดุลกึ่งกลางของ 2 เส้นถนนหลัก คือ ESSE ตำแหน่งที่ดีมานด์สูงที่สุด ไม่มีที่ตรงไหนดีไปกว่าที่ติดเส้นทางคมนาคมทำเงินอย่างรถไฟฟ้า ตอบสนองไลฟ์สไตล์ การทำงาน ความเป็นอยู่ และการลงทุน หลอมรวมเป็นช่วงยุคทองของวัยที่มี Value ในตัวเอง…
เปิดฉากที่ทำเลศักยภาพ ความแกร่งของสิงห์ไม่ใช่ราคาคุยจริงๆ
สมดุลภาพลักษณ์
ผู้เขียนยอมใจในความแตกต่าง “The ESSE Sukhumvit 36” แทบจะเป็นโครงการระดับสูงแห่งเดียวที่เชิดชูเอกลักษณ์ไทยให้เป็น Element หลักสอดแทรกอยู่ในทุกการดีไซน์
ผู้ออกแบบหลักสัญชาติไทยอย่าง “Tandem Architects” ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษางานสถาปัตย์ระดับ World-Class อย่าง Skidmore, Owings and Merrill (Thailand) หรือ “SOM” ซึ่งมีผลงานสร้างชื่อ เช่น One World Trade Center, New York และ Burj Khalifa, Dubai ร่วมกันรังสรรค์งาน Exterior โดยมีแรงบันดาลใจจากวิถีไทย เช่น เส้นสายโค้งเว้าแบบหลังคาจั่วตกแต่งโดยรอบตึก, ฝ้า DoubleVolume แบบใต้ถุนยกสูง, Interior แกะสลักลวดลายวิจิตรศิลป์ภายใน, Landscape ด้วยแนวคิดนาขั้นบันไดในพื้นที่สวน หรือแม้ตัวงานระบบ ก็ใช้เทคนิคช่องระบายลมพัดผ่านตัวบ้าน ให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศแต่ละชั้นพักอาศัยด้วย
ดีไซน์ที่เคารพวัฒนธรรมอันสวยงาม สอดคล้องกับธรรมชาติ และเข้าใจวิถีความเป็นอยู่ คือสูตรสมดุลในความแตกต่างที่หาได้ยาก
แม้ภายนอกคือลักษณะเฉพาะของไทย แต่คอนเซปต์พื้นที่ส่วนกลางภายในได้บิดกลับสู่เทรนด์สมัยใหม่ เช่น Automated Parking, Onsen, Golf Simulator, Infinity Eadge Pool หรือ The Residence Lounge เพราะไม่ลืมว่า…ที่ตั้งแห่งนี้เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติมากแค่ไหน จึงสร้างความ Exclusive ให้แก่ลูกค้าได้อย่างไร้รอยต่อ
ดีไซน์ที่เคารพวัฒนธรรมอันสวยงาม สอดคล้องกับธรรมชาติ และเข้าใจวิถีความเป็นอยู่ คือสูตรสมดุลในความแตกต่างที่หาได้ยากจริงๆ
สมดุลการตกแต่ง
ESSE มอบความไว้วางใจให้ “DWP” ออกแบบสร้างสรรค์งาน Interior ทุก Unit Type แค่ชื่อก็การันตีคุณภาพ…บริษัทออกแบบที่ก่อตั้งในไทยแต่ผลงานไปไกลสู่สากล ครองตลาด Iconic Luxury ชั้นแนวหน้า เช่น Mandarin Oriental และ Lebua No. 3
ดีไซน์เนอร์ตีความหมายของ Luxury ได้อย่างถูกต้องหมดจด ด้วยความเรียบหรูของทุกวัสดุที่เลือกสรรมา เช่น กระเบื้องพื้น Homogeneous, พื้นไม้ Engineering ปูลาย Herringbone, เคาท์เตอร์หินควอทซ์สีดำลายขาว และ ผนังหินอ่อนตกแต่ง Black Marquina หรือ White Marmara ตบท้ายเพิ่มความกว้างของห้องด้วยกระจกเงาสีชาทองตกแต่งอยู่โดยรอบ
ด้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็นบิ๊วอิน เตาอบ เตาเซรามิก และเครื่องดูดควันได้เลือกใช้ “Kuppersbusch” แบรนด์เยอรมันชื่อดัง ส่วนงานระบบไฟ แอร์ ม่าน ควบคุมด้วยนวัตกรรม Smart Home หรือ Home Automation จากแบรนด์ “Schneider” เทคโนโลยีสุดล้ำที่เริ่มรุกตลาดเมืองไทย อุปกรณ์ก็อกน้ำ ฝักบัวใช้ “Gessi” จากอิตาลี และแบรนด์เนมส่งท้ายด้านสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ คือ “Toto” ยืนหนึ่งโครงการ High-End เสมอมา
แม้จะใช้ Imported Brand เกือบทั้งห้อง แต่ ESSE ได้เบรกอารณ์ด้วยเสน่ห์ไทยแทรกอยู่ในงานตกแต่ง รักษาสมดุลและสร้างความรู้สึกอบอุ่นจากธรรมชาติเรียบๆ ด้วยผ้าทอไทยจาก Jim Thompson ผ่านงานม่านและวอลเปเปอร์
Finished งานตกแต่งทั้งหมดได้ชวนมอง แถมยังมีเทคโนโลยีดีๆ เพื่อผู้อยู่อาศัย บรรยากาศของ “บ้าน” คงเป็นสุขไม่ใช่น้อย…
สมดุลความเป็นอยู่
ผู้เขียนรับรองว่า “ The ESSE Sukhumvit 36” เป็นหนึ่งในไม่กี่โครงการที่วางผังห้องสวย และแบ่งสัดส่วนได้เพอร์เฟค!
เพราะผู้อยู่อาศัย คือ “Urbanist” คนเมืองมี Active Lifestyle จากทำเลรอบๆ โครงการ หรือจะสนุกกับสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางครบครันภายในก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้น…เมื่อร่างกายเรียกหาความสงบ หยุดความเคลื่อนไหวรอบตัว การใช้สมาธิ การพักผ่อน เพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้อยู่ในสมดุลและสภาวะที่ดี ย่อมต้องเกิดจากที่ที่เรียกว่า “บ้าน”
โครงการเริ่มต้นด้วยแนวคิด Harmony สื่อถึงการประสานซึ่งความรู้สึกและความเป็นอยู่ จึงออกแบบห้องชุดให้โอ่โถ่ง เพดานสูงถึง 3 เมตร มีพื้นที่ห้องขนาดใหญ่ตั้งแต่ 38.50 – 252 ตร.ม โดยแบ่งสัดส่วนพื้นที่ห้องนอนใหญ่เกินกว่าครึ่งของพื้นที่ทั้งหมด ห้องครัวและห้องนั่งเล่นแม้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่ก็กว้างขวางแบ่งโซนอย่างชัดเจน ไม่อึดอัด
ภายในห้องนอน พื้นที่กว้างสามารถจัดวางเตียงขนาด King Size ได้สบายๆ ตามด้วย Walk-in Closet ที่เดินหมุนตัวได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว โดยกั้นด้วยฉากแบบ Transparent ช่วยทำให้ดูโปร่งโล่ง เมื่อเดินเข้าห้องน้ำก็พบอ่างอาบน้ำที่มีให้ทุกยูนิต แยกพื้นที่กับห้องอาบน้ำแบบ Shower ออกจากกัน ซึ่งถูกต้องตามวัตถุประสงค์การใ้ช้งานที่ควรจะเป็น
Welcome Warming คือ เสียงของบ้านที่สื่อสารกับผู้อยู่อาศัย และ “The ESSE Sukhumvit 36” ตีโจทย์นี้ได้ตรงประเด็น…
โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตเช่นนี้ ไม่ว่าเพื่อการอยู่อาศัยเองหรือการลงทุน ก็คุ้มค่าที่จะเลือกให้เป็นทรัพย์สินหนึ่งของชีวิต