คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ เลี้ยงอย่างไร? ไปดูกัน…
Pet-friendly Condo
ยอมรับเลยค่ะว่าในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป มุมมองต่อสัตว์เลี้ยงในบ้าน ก็หาใช่แบบสมัยก่อนที่เลี้ยงน้องหมาไว้เฝ้าบ้าน เลี้ยงน้องแมวไว้จับหนู แต่ทว่าในปัจจุบันเรากลับมีมุมมองที่เปิดกว้างมากขึ้น รักและเอ็นดูน้องๆ เหล่านี้ประหนึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัว ที่อยู่ข้างๆ เราเป็นเพื่อนเล่นแก้เหงา รับฟังคลายเครียด หรือซุกซนออดอ้อนเอาใจจนตกเป็นทาสตามๆ กัน
เห็นได้ชัดเลยค่ะว่าเทรนด์นิยมการเลี้ยงสัตว์ในปัจจุบันมีเพิ่มมากขึ้น แต่พื้นที่ในการเลี้ยงน้องๆ กลับลดน้อยลง ใครกันเล่าจะหาบ้านเดี่ยวใจกลางเมืองติดรถไฟฟ้าให้เราใช้ชีวิตสะดวกได้ แถมยังมีพื้นที่ให้น้องวิ่งเล่นได้อีก เพราะแบบนี้.. คอนโดรุ่นใหม่ๆ จึงพัฒนาแนวคิดปรับเปลี่ยนรูปแบบการพักอาศัยให้รองรับ Pet-friendly กันหลากหลายค่ายดังเลยทีเดียว และแต่ละเจ้าก็ทำได้น่าสนใจไม่น้อย เรียกว่าแข่งขันกันแม้กระทั่งเครื่องเล่นในพื้นที่ส่วนกลางของน้องๆ ไม่ต่างกับพื้นที่ส่วนกลางของเหล่านุดๆ (มนุษย์) อย่างเราเลยค่ะ
ที่นี้.. เรามาดูกันค่ะว่า สังคมของน้องหมาน้องแมว เมื่ออัพเลเวลยกระดับการใช้ชีวิตมาเป็นเด็กเมือง นอนหรูอยู่สบายบนคอนโดกันแล้วนั้น จะมีกฎระเบียบสำคัญๆ ใดเวลาอาศัยอยู่ร่วมกันบ้าง ไปดูกันค่ะ..
การลงทะเบียนประวัติสัตว์เลี้ยง
อันดับแรกที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าของห้องชุด หรือผู้พักอาศัยหลัก เช่น ผู้เช่า จะต้องดำเนินการ คือ ลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงกับนิติบุคคลอาคารชุด เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับกรณีใดๆ ก็ตาม โดยข้อมูลที่ต้องการจะประกอบด้วยประเภทสัตว์เลี้ยง สายพันธุ์ อายุ สี เพศ ชื่อ และรูปภาพของน้องๆ เจ้าตัวเล็กนี้
เอกสารประกอบการลงทะเบียน โดยมากจำเป็นต้องยื่นผลสุขภาพของน้องๆ ร่วมด้วย คือ ใบรับรองการตรวจสุขภาพว่าแข็งแรงดี ไม่มีโรคภัย ออกเอกสารโดยโรงพยาบาลสัตว์หรือคลีนิกสัตว์ที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง และสมุดประวัติการฉีดวัคซีนของสัตว์เลี้ยงด้วยนะคะ
เลี้ยงเฉยๆ อย่างเดียวไม่ได้ ในฐานะเจ้าของร่วมผู้พักอาศัยในโครงการเดียวกัน เราจำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมสัตว์เลี้ยงด้วยเช่นกัน ก็เพื่อเป็นกองทุนในการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางและลงน้ำยาฆ่าเชื้อ ให้ปลอดภัยปลอดโรคอยู่เสมอ โดยอัตราค่าธรรมเนียมจะเป็นไปตามกฎระเบียบของแต่ละคอนโดไม่เท่ากันค่ะ
ปัจจุบันเรามีมุมมองที่เปิดกว้างมากขึ้น รักและเอ็นดูสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ ประหนึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัว
ข้อกำหนดการเลี้ยงสัตว์
แน่นอนค่ะว่าคอนโด Pet-friendly ดีไซน์รุ่นใหม่นั้น ยกทัพจัดเต็มส่วนกลางสำหรับน้องหมาน้องแมว ไฉไลและเพียบพร้อม ทั้งที่วิ่งเล่น ที่อาบน้ำ ที่ขับถ่ายอยู่รอบบริเวณโครงการ ดังนั้น การเคารพการพักอาศัยในพื้นที่เดียวกันจึงจำเป็นอย่างมาก ที่ต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบและไม่ละเมิดสิทธิต่อกันและกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้องหมาๆ แมวๆ ให้เราปวดหัว ไปดูกันค่ะว่าหลักเกณฑ์และข้อกำหนดเพื่อยึดถือปฏิบัติจะมีอะไรบ้าง
- จำนวนสัตว์เลี้ยงต่อห้องชุด และขนาดน้ำหนักที่กำหนด
เรื่องนี้น่าสนใจเลยค่ะ ใช่ว่าทางคอนโดอนุญาตเลี้ยงสัตว์ได้ แล้วเราจะเลี้ยงได้หลายตัวนะคะ อย่างมากจะอนุญาตได้แค่จำนวน 1-2 ตัว/ห้องชุดเท่านั้นค่ะ เราไม่สามารถสร้างอาณาจักรสัตว์เลี้ยงเกินจำนวนที่กำหนดได้นะคะ ไม่เช่นนั้นจะรบกวนผู้พักอาศัยท่านอื่นๆ อีกทั้งขนาดน้ำหนักเป็นผลกับขนาดของน้องๆ ค่ะ หากน้องตัวใหญ่แรงเยอะ ก็อาจจะทำร้ายเพื่อนบ้านได้เช่นเดียวกันค่ะ
2. ไม่อนุญาตสัตว์เลี้ยงต้องห้าม
จำพวกสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์หวงห้าม สัตว์ปีก หรือสัตว์ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง ทั้งมีพิษ ก่อให้เกิดเชื้อโรคทุกชนิด และง่ายต่อการก่อกวนส่งเสียงต่างๆ เป็นสิ่งต้องห้ามในคอนโดอันเป็นที่พักอาศัยรวม จำพวก งู กิ้งก่า นก ไก่ เป็ด ห่าน หรือของแปลกอย่างแมลงสายพันธุ์ต่างๆ เป็นต้น อย่าหาทำในคอนโดเด็ดขาดเลยค่ะ
3. เลี้ยงในพื้นที่จำกัดการเลี้ยงได้
กล่าวคือ บริเวณพื้นที่ส่วนกลางที่ทางโครงการจัดไว้ให้เป็น Pet Zone, Pet Toilet เป็นต้น เราไม่สามารถพาน้องๆ ไปกระโดดลงสระว่ายน้ำของคน วิ่งลู่ที่ฟิตเนส อบไอน้ำเข้าซาวน่า นอนชิลในห้องสมุดหรือ Co-working space ได้อย่างพื้นที่ของคนนะคะ อย่าลืมว่า.. คอนโดมีทั้งผู้พักอาศัยที่ทั้งเลี้ยงสัตว์และไม่เลี้ยงสัตว์ค่ะ ดังนั้น พาน้องๆ เดินเล่นกันให้สนุกในพื้นที่ที่จัดให้ของน้องๆ สบายใจหายห่วงกว่าค่ะ
4. ความปลอดภัยต่อคนและสัตว์ร่วมคอนโด
กฎระเบียบพื้นฐาน หากเราพาน้องเดินเล่น อย่าลืมว่าต้องมีสายผูก/สายจูง และมีผู้ดูแลตลอดเวลาในบริเวณพื้นที่ส่วนกลางที่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้น้องๆ ของเราไปทำผู้ใดหรือสัตว์เลี้ยงของผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ สร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรือว่าเผลอไปทำลายทรัพย์สินส่วนกลางหรือของเจ้าของร่วมผู้พักอาศัย พังชำรุดเสียหายนั่นเองค่ะ น้องๆ อยู่ในการปกครองของเรา เราจึงต้องรับผิดชอบทั้งหมดนะคะ
5. ความสะอาด
สิ่งสำคัญเลยค่ะ เวลาพาน้องไปเดินเล่นตรงจุดใด อย่าลืมพกกระบอกน้ำ และถุงเก็บมูล กรณีน้องขับถ่ายด้วยนะคะ ไม่ก่อเชื้อโรคแล้วพื้นที่จะได้น่ามองน่าอยู่ตลอดไปค่ะ
6. การดูแลกรณีสัตว์ป่วยหรือเสียชีวิต
กรณีสัตว์เลี้ยงป่วย เราต้องนำน้องไปรักษาโดยเร็ว และไม่นำเข้าพื้นที่ส่วนกลางเด็ดขาด และข้อห้ามเด็ดขาด คือ ห้ามนำซากสัตว์เลี้ยงที่เสียชีวิตใส่ถุงขยะนำไปทิ้งปะปนกับถุงขยะทั่วไปค่ะ
บทกำหนดโทษ
ข้อกำหนดต่างๆ มีไว้ปฏิบัติเพื่อให้สังคมของการอยู่อาศัยร่วมกันเป็นไปอย่างสงบสุขกันทุกฝ่าย หากแต่การฝ่าฝืนกฎนั้น ย่อมต้องมีบทลงโทษสำหรับกรณีต่างๆ แตกต่างกันไป ในเรื่องสัตว์เลี้ยงก็เช่นเดียวกัน โดยมากการฝ่าฝืนกฎไม่ว่าจะกฎใดๆ ก็ตาม นิติบุคคลจะแจ้งตักเตือนเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษรเพื่อให้เราทราบความผิด ทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม หรือบางข้อกำหนดนั้นไม่จำเป็นต้องตักเตือนเพราะมีประกาศให้รับทราบชัดเจนแล้วนั้น ก็อาจเรียกเป็นค่าปรับจำนวนตามความรุนแรงของความผิดนั้นๆ หรืออาจโดนทั้งหนังสือเตือนและค่าปรับในคราวเดียวกันก็เป็นได้
กรณีความเสียหายถึงขั้นสุด เจ้าของห้องหรือผู้เลี้ยงนั้นๆ ต้องนำสัตว์เลี้ยงออกจากอาคารชุดภายใน 24 ชั่วโมง หรือไม่อนุญาตให้เลี้ยงได้อีกต่อไป เว้นแต่เจ้าของชุดยังคงเพิกเฉย นิติบุคคลอาจมีมาตรการตัดการให้บริการน้ำประปาก็ทำได้เช่นกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้น กฎระเบียบต่างๆ ของแต่ละคอนโดอาจจะมีความแตกต่างกันบ้าง ซึ่งปกติจะปรับกฎตามความเห็นชอบของคณะกรรมการอาคารชุด และให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ความเป็นอยู่นั้นๆ ดังนั้นไม่ว่าจะเลี้ยงที่ใด น้องหมาน้องแมวและมนุษย์เราสามารถอยู่ร่วมกันได้ ถ้าเราต่างก็ปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในสังคมส่วนรวมตรงนี้ค่ะ
ติดตามบทความดีๆ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าจาก Property 101 Thailand กันได้ใหม่ในบทต่อไปค่ะ