“ราชเทวี” เดิมทีทำเลนี้เป็นตำบลเล็กๆ ของเขตดุสิต (เขตเก่าแก่เชิงประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม) จากนั้นในปี พ.ศ 2509 ราชเทวีได้ถูกโยกย้ายให้ขึ้นตรงกับเขตพญาไท ซึ่งถูกแบ่งภาคมาตั้งเป็นเขตได้ก่อน และภายหลังจากนั้นปี พ.ศ 2532 ราชเทวีจึงแยกตัวออกมาตั้งเป็นเขตของตนเองได้ในที่สุด ทำเลมาแรงทั้ง 2 ย่านนี้จึงอยู่ติดกันอย่างแยกไม่ออก เรียกว่า “ได้ดีทั้งคู่” ก็ว่าได้ค่ะ
ชื่อราชเทวีและพญาไทเป็นชื่อที่ถูกตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จึงไม่แปลกที่ย่านนี้ยังคงอนุรักษ์แหล่งสำคัญทางประวัติศาสตร์ อย่าง “วังสวนผักกาด” ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง แถมยังชนกับสถานที่ท่องเที่ยวหน้าตาทันสมัยย่านราชประสงค์ ตั้งรวมอยู่ในย่านเดียวกันได้อย่างกลมกลืน และยิ่งโด่งดังมากขึ้นเมื่อถูกตั้งเป็นชื่อสถานีรถไฟฟ้าถึงสองสายตัดผ่านด้วยกัน
สาเหตุที่ราชเทวี-พญาไทถูกแยกตัวออกจากกันได้ ก็เพื่อประสิทธิภาพในการปกครอง การบริหาร และการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน กล่าวโดยรวมก็คือ พื้นที่นี้มีความเจริญ อันเกิดจากการมาถึงของภาคธุรกิจและคมนาคม ทำให้ประชาชนเริ่มโยกย้ายมาตั้งหลักแหล่งมากขึ้น โดยรวม 2 เขตนี้ก็มีประชากรในพื้นที่กว่า 150,000 คน อ้างอิงสถิติจากสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร
แน่นอนค่ะว่าโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ช่วยทำให้ทำเลเกิดมูลค่า เกิดการประมูลแย่งชิงจับจองของธุรกิจเอกชนที่มาร่วมลงทุน จนทำให้เกิด “ทำเลศักยภาพ” และเติบโตได้ในเวลาอันรวดเร็ว