Property 101 Thailand

คอนโดตากอากาศ ดูแลอย่างไร? ให้ไม่โทรม

ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศยอดฮิตของคนทั่วไป สิ่งที่คิดถึงเป็นอันดับแรกคงไม่พ้น “ทะเล” แน่นอนค่ะ เสน่ห์ของเสียงคลื่นลมออกซิเจนบริสุทธิ์ และกิจกรรมทางทะเลอย่างมากมาย ทำให้หลายๆ คนติดใจธรรมชาติที่สวยงามเช่นนี้ ประเทศไทยเองขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์และทรัพยากรทางทะเลสวยงามมาแต่ไหนแต่ไร พัทยา ภูเก็ต กระบี่ สมุย ฯลฯ หัวเมืองใหญ่เหล่านี้ล้วนมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก จนได้ชื่อว่า Paradise Thailand

ทะเลจึงเป็นแหล่งดึงดูดผู้คนให้มาเยี่ยมเยียน ท่องเที่ยวพักผ่อน ตั้งรกรากอยู่อาศัย จับจ่ายใช้สอยมา สร้างธุรกิจการค้า จนเกิดเป็นแหล่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างความเจริญให้พื้นที่มานักต่อนัก สังเกตุได้ชัดๆ ว่าพื้นที่ทำเลแจ่มๆ อสังหาริมทรัพย์จะผุดขึ้นมามากมายนับไม่ถ้วน ทั้งอาคาร ห้างร้าน หมู่บ้าน โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ยิ่งโครงการไหนได้พื้นที่ติดหน้าหาด เรียกได้ว่าเจ๋งสุดแต่ก็แลกกับมูลค่าราคาแพงระยับค่ะ

การที่เราปล่อยทิ้งบ้านโดยไม่ได้อยู่อาศัยดูแลเลย มีแต่จะทรุดโทรมลง มูลค่าที่เคยมีก็มีแต่จะตกลง

แต่ถึงอย่างนั้น…หากใครพร้อมมีหรือจะไม่ซื้อ นอกจากจะได้ใช้สถานที่พักผ่อนในวันหยุดเองแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้จากการลงทุนปล่อยเช่าขายต่อได้อีก จะรายวัน รายเดือน หรือรายปีก็มีครบ แม้จะภาพลักษณ์จะดูง่ายอะไรก็ดี แต่ความจริงแล้วนั้น การที่เราปล่อยทิ้งบ้านโดยไม่ได้อยู่อาศัยดูแลเลย มีแต่จะทรุดโทรมลง มูลค่าที่เคยมีก็มีแต่จะตกลง รวมไปถึงการเสียค่าซ่อมย่อมแพงกว่าค่าบริการดูแลรักษาเสียอีกค่ะ

อสังหา101 จึงขอแนะแนวทางวิธีการดูแลคอนโดตากอากาศริมทะเลให้อยู่ยั่งยืน ดูดีอยู่เสมอ ไม่เก่าไม่โทรม ดังนี้ค่ะ

1.ฝากกุญแจกับนิติบุคคล 

เป็นสิ่งที่ทำได้หากเราจำเป็นต้องทิ้งห้องไว้นานๆ กรณีมีเหตุฉุกเฉินใดๆ เกิดขึ้นในห้อง ทีมนิติสามารถขออนุญาตเข้าห้อง เพื่อไปตรวจสอบและแก้ไขเหตุได้อย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายรับฝากกุญแจของโครงการว่ามีหรือไม่ แนะนำให้ดูศักยภาพของเจ้าหน้าที่นิติร่วมด้วยว่าเข้าใจและมีมาตรฐานการทำงานที่น่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ในขั้นตอนปกติ นิติต้องมีใบรับฝากกุญแจพร้อมเซ็นยินยอมกันทั้งสองฝ่าย วิธีการเบิกจ่ายกุญแจที่เป็นระบบและตรวจสอบได้ โดยทั่วไปนิติมีหน้าที่แค่รับฝากเก็บกุญแจ ให้บุคคลมาเซ็นเบิกยืมและคืนเอง แต่จะไม่รับหน้าที่เปิดห้องหรือเฝ้าช่างจากบุคคลภายนอกให้

ในทางกลับกัน เราก็ไม่ควรเสี่ยงวางของมีค่าใดๆ ไว้ในห้อง หมั่นไปตรวจสอบเองบ้าง เพราะอย่างไรแล้วก็ไม่ควรไว้วางใจบุคคลอื่นมากจนเกินไปค่ะ

2.ปิดงานระบบ

ปิดวาล์วน้ำและสับเบรกเกอร์ไฟลงทุกครั้งเมื่อไม่อยู่ห้องนานๆ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากงานระบบทั้งหมด เช่น น้ำรั่ว ไฟรั่ว หรือหลงลืมปิดระบบตั้งเวลาเปิดปิดแอร์อัตโนมัติ ความเสื่อมของสายฉีดชำระ ท่อสายน้ำดีชักโครก ฯลฯ เหล่านี้เกิดน้ำรั่วน้ำซึมได้ทั้งหมดตามกาลเวลา ยิ่งหากแรงดันน้ำมากจนล้นออกมาด้านนอก ส่งผลให้พื้นไม้เปียกบวม ห้องอับชื้นขึ้นราได้ ซ่อมห้องกันยกใหญ่แน่นอนค่ะ 

เพื่อความปลอดภัยทั้งต่อทรัพย์สินเราและเพื่อนบ้านร่วมคอนโด แถมไม่ต้องกังวลใจเรื่องค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคที่ไม่ได้ใช้งานด้วยค่ะ

3.ปิดม่านมิดชิด 

เพื่อป้องกันแสงแดดแและความร้อนที่ส่องเข้าถึงตัวห้อง อุณหภูมิในห้องที่สูงขึ้น โดยเฉพาะแดดแรงๆ จะทำให้งานตกแต่ง พื้น และผนังมีสภาพพังเสียหาย เช่น ไม้แอ่นสีซีดจาง ฝ้าผนังสีแตกร้าว สีกรอบลอกเป็นแผ่นๆ ได้ หากต้องมาซ่อมตามหลัง จะเสียทั้งเวลาเสียทั้งเงินไม่คุ้มกันเลยค่ะ

แนะนำว่า ควรเลือกใช้ม่านลักษณะทึบกันความร้อน รังสี UV หรืออาจติดฟิลม์บนกระจกกันแดดร่วมด้วยก็ได้ค่ะ

4.ระบายอากาศ 

หากเราทิ้งห้องไว้นานแล้วเพิ่งกลับมาใช้นั้น ให้เปิดประตูหน้าต่างให้เกิดทิศทางลมหมุนเวียนวิ่งไหลผ่านก่อนเพื่อระบายอากาศซักพัก จึงค่อยเปิดแอร์เพื่อเป็นการลดอุณหภูมิห้องก่อนเบื้องต้น ช่วยให้แอร์ไม่ทำงานหนักเกินไป

5.ทำความสะอาด

เราควรหาคนดูแลและทำความสะอาดห้องอย่างน้อยเดือนละครั้งสองครั้ง เพราะที่พักริมทะเลเจอทั้งทรายและความชื้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรเปิดห้องทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถูไล่ฝุ่น ทราย ความร้อน ความชื้น กำจัดเชื้อรา หรืออาจใช้เครื่องลดความชื้นสำหรับบ้านเรือนร่วมด้วยก็ได้ 

ในขณะเดียวกันก็ควรหาโอกาสทำนุบำรุงห้อง ลงน้ำยาเคลือบเฟอร์นิเจอร์ เคลือบกันสนิม สอดส่องดูท่อน้ำงานระบบ ตรวจเช็คสภาพเครื่องปรับอากาศ ล้างแอร์หรือเติมน้ำยา หรือเปิดการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าบ้าง เพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

หากต้องมาซ่อมตามหลัง จะเสียทั้งเวลาเสียทั้งเงินไม่คุ้มกัน

เราสามารถใช้บริการบริษัททำความสะอาดจากภายนอก หรือใช้บริการจัดหาแม่บ้านผ่านนิติแล้วจ่ายค่าบริการเป็นครั้งๆ ไป อย่าลืมจัดเตรียมกุญแจเข้าห้องให้พร้อมและลองเข้าไปตรวจงานดูผลงานการทำความสะอาดบ้างนะคะ

ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการรักษาห้องระยะยาวค่ะ

6.ฉีดยาฆ่าแมลง

เฉลี่ยประมาณ 3 เดือนต่อครั้ง จำพวกมด ปลวก แมลงซึ่งมาตามท่อน้ำ รูปลั๊กไฟ สามารถเข้ามากัดกินทำลายเครื่องเรือนเฟอร์นิเจอร์ไม้ต่างๆ และเพาะเชื้อโรคได้

ปัจจุบันนี้มีบริษัทรับจ้างกำจัดแมลง ฉีดปลวกตามคอนโดอยู่เยอะ ลองสอบถามนิติว่าอาคารใช้บริการบริษัทใดอยู่หรือไม่ เพื่อรับรองคุณภาพและราคามาตรฐานโครงการค่ะ โดยปกติจะบริการเป็นรายปี ระบุจำนวนครั้งที่ฉีดชัดเจนค่ะ

7.ถูกสเปก

ในขั้นตอนการช้อปปิ้งซื้อของตกแต่งบ้านนั้น ให้เลือกใช้ของแต่งบ้านอย่างถูกประเภทสำหรับภายในและภายนอกอย่างเหมาะสมกับสภาพอากาศ โดยเฉพาะจุดขายของคอนโดริมทะเล คือ ชานพักระเบียงขนาดใหญ่ เพื่อจัดวางเก้าอี้ชายหาด เปลญวน เตียงพับ รวมไปถึงเบาะที่ใช้นอนพักฟังเสียงคลื่น เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้เหล่านี้ ต้องคงทนต่อแดดและฝน กันน้ำ เหมาะกับพื้นที่เอ้าท์ดอร์  กระจกภายนอกควรเป็นไฟเบอร์กลาสหนาทนต่อแรงลมและการพัดกระแทก และราวระเบียงต้องเป็นสแตนเลสสตีลเพื่อป้องกันการเกิดสนิม

เลือกใช้ของแต่งบ้านอย่างถูกประเภทสำหรับภายในและภายนอก

ส่วนเฟอร์นิเจอร์ภายในยังคงเลือกใช้ได้เหมือนบ้านปกติทั่วๆ ไปเลยค่ะ แต่อาจเน้นที่ทำความสะอาดง่ายหน่อย ไม่ต้องดูแลมากก็พอค่ะ

8.ซื้อประกันภัยห้องชุด

เพื่อกรณีเหตุไม่คาดคิดต่างๆ การถูกขโมยลักทรัพย์เพราะห้องไม่มีผู้ดูแลเข้าออกประจำ งานซ่อมแซมจากการปิดห้องนาน การรับประกันเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อาจเสียหายได้ง่าย รวมทั้งอุทกภัยธรรมชาติซึ่งอาจเกิดได้จากสภาพแวดล้อมริมทะเล 

เราสามารถรับการปรึกษากับบริษัทประกันภัย เพื่อดูข้อเสนอหรือแพคเกจที่เหมาะสมกับเราเผื่อไว้ก็ดีค่ะ

หากเรามีผู้อื่นสลับมาพักอาศัยใช้ห้อง ควรเน้นย้ำเรื่องความสะอาด ควรเก็บทิ้งขยะที่ห้องขยะส่วนกลางทุกครั้งเมื่อออกจากห้อง หรือส่งแม่บ้านเข้าทำความสะอาดดูแลห้องต่อและปิดงานระบบทันทีค่ะ ไม่ควรทิ้งไว้นาน เพราะเจ้าของห้องหลายท่านเจอเหตุการณ์ผู้เช่า ผู้พักอาศัย ทำห้องเละ สกปรกเน่าเหม็น ทำลายห้องมานักต่อนักแล้ว ไม่ควรเสี่ยงเด็ดขาดค่ะ

ไม่เพียงเท่านี้ เรายังปรับใช้ 8 วิธีการนี้เข้ากับคอนโดตากอากาศอื่นๆ อย่างเช่น คอนโดติดภูเขา หรือต่างจังหวัดอื่นๆ ก็ได้เช่นกันนะคะ 

อสังหา 101 ยืนยันว่าคอนโดหรือบ้านพักริมทะเลดูแลไม่ยากเท่าที่คิดค่ะ แค่เพิ่มความใส่ใจเล็กๆน้อยๆ ก็ช่วยยืดอายุของทรัพย์สิน และสร้างมูลค่าห้องชุดได้อย่างต่อเนื่องแน่นอนค่ะ