ชี้โอกาสอสังหาไทย เหตุใดถึงดึงดูดใจชาวต่างชาติ?
ในช่วงปี 2019 – 2020 มีหลายสถานการณ์สำคัญๆ ที่โลกต้องจารึกเกิดขึ้นมากมาย โดยที่เราไม่สามารถปฏิเสธหรือเพิกเฉยต่อเหตุการณ์เหล่านี้ได้เลย ทั้งเรื่องสงครามการค้า อุทกภัยธรรมชาติ ปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก และโรคระบาดซึ่งนับว่าหนักหนาที่สุด
อย่างไรแล้ว บทเรียนจากเรื่องราวเหล่านี้ ก็มักสร้างโอกาสใหม่ๆ ได้อยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองเห็นอะไร?
หากเรียนรู้จากวิกฤตต่างๆ ที่ผ่านมา พบว่าเราเองก็เป็นหนึ่งในประเทศศักยภาพ รักสงบ แม้ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ก็มีระบบการจัดการให้อยู่ในภาวะรับมือได้ ไม่เจ็บหนัก! ประเทศไทยมีของดีในตัวอยู่หลายอย่าง จากเดิมที่พอมีต้นทุนชื่อเสียงอยู่บ้าง แต่หลังจากปี 2020 เป็นต้นไปนั้น ประเทศไทยในสังคมโลกจะโดดเด่นยิ่งกว่าเดิม
ชัดเจนว่า…ประเทศไทยติดอันดับจุดหมายปลายทางจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่โหวตให้เสมอมา แต่นับจากนี้ เราจะไม่จำกัดแค่ธุรกิจการท่องเที่ยวอีกต่อไป แต่จะเห็นการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ ด้านการลงทุน การย้ายภูมิลำเนา และสถานที่พำนักผู้เกษียณอายุ จะถูกนำมาพิจารณาเลือก “ไทย” เป็นเป้าหมายอีกครั้ง
อสังหา101 วิเคราะห์ว่าเหตุใดประเทศไทยจึงได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวเลือกแรก ได้ดังนี้
วิธีการซื้อคอนโดของชาวต่างชาติเป็นอย่างไร Property 101 มีคำตอบให้คุณ!
1. นิสัยเป็นมิตรของคนไทย
“The Land of Smiles” หรือ “ยิ้มสยาม” คือ เสน่ห์สำคัญที่ต่างชาติล้วนยอมรับเป็นเสียงเดียวกัน เสมือนคำนิยามประจำประเทศไทย
เสน่ห์นี้อยู่ในสายเลือดไทย ทำได้โดยไม่ต้องปรุงแต่ง การต้อนรับ ความมีน้ำใจ การให้ความช่วยเหลือของคนไทยสามารถสื่อสารได้โดยทันที ไม่จำเป็นต้องมีอุปสรรคทางภาษามาขวางกั้น และทำได้อย่างเป็นมิตร
ดังเช่นตัวอย่างความเป็นมิตรผ่านวิกฤต ที่ชาวบ้านคนไทยยินดีช่วยเหลือให้ที่พักและอาหารแก่ผู้ประสบภัยชาวต่างชาติ ซึ่งไม่สามารถกลับประเทศได้ในช่วง Lock Down เหตุการณ์ดีๆ น่าประทับใจ ที่คนแชร์ในสังคมออนไลน์จนรับรู้กันทั่วโลก
การเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ การลงทุน การย้ายภูมิลำเนา ผู้เกษียณอายุ จะเลือก “ไทย” เป็นเป้าหมายอีกครั้ง
2. ความอิสระเสรี
อีกหนึ่งชื่อเสียงต้นๆ ที่ชาวต่างชาติพร้อมใจกันเทคะแนนให้ และเป็นจุดแข็งสำคัญได้เปรียบกว่าชาติอื่นๆ คือ ความอิสระเสรี เปิดกว้างของสังคม เชื้อชาติ ศาสนา เสรีเพศ (LGBT) โดยไม่มีกฎเกณฑ์บังคับเข้มงวด รวมทั้งภาครัฐสนับสนุนพิจารณาร่างแผนส่งเสริมความเสมอภาคเท่าเทียมระดับชาติอีกด้วย เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้โดยปกติสุข
อันเป็นตัวอย่างการเปิดกว้างทางวัฒนธรรม สามารถรับอิทธิพลและปรับตัวตามเทรนด์โลกได้อย่างง่ายดาย
3. ค่าครองชีพย่อมเยา
เมืองไทยขึ้นชื่อว่าข้าวของถูก ค่าเดินทางไม่สูง อาหารไม่แพง เพราะ ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมอู่ข้าวอู่น้ำ ผลิตได้เอง ต้นทุนการผลิตไม่สูงนัก ประกอบกับค่าเงินบาทที่ไม่แข็งค่ามาก มูลค่าเงินสกุลต่างๆ ที่ได้รับหลังแลกเปลี่ยนเงินตรา สามารถทำให้นักท่องเที่ยวระดับ Mid to High ใช้ชีวิตในไทยได้เป็นเดือนๆ
รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ คอนโดระดับลักชูรี่ ที่พักตากอากาศริมทะเล หัวเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เช่น กรุงเทพ ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ หรือกระบี่ ก็มีมูลค่าถูกกว่ามาก เมื่อเปรียบเทียบกับคอนโดในระดับเดียวกันกับต่างประเทศอย่างสิงค์โปร์ ฮ่องกง หรือญี่ปุ่น
คอนโดระดับลักชูรี่ มีมูลค่าถูกกว่ามาก เมื่อเปรียบเทียบกับคอนโดในระดับเดียวกันกับต่างประเทศอย่างสิงค์โปร์ ฮ่องกง หรือญี่ปุ่น
4. โครงสร้างพื้นฐานครบถ้วน
คือ ระบบพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต โดยมีหน่วยงานรัฐดูแลควบคุมทั้งหมด เนื่องจากไม่ใช่องค์กรแสวงหากำไร จึงมีการควบคุมราคาถูก บริการประชาชนอย่างทั่วถึง และอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั้งหมด ประกอบไปด้วย
- ระบบพลังงาน แก๊ส ปิโตรเลียม ไฟฟ้าเข้าถึงทุกครัวเรือน
- ระบบการจัดการน้ำ สะอาด ปลอดภัย มีเขื่อนสำรองน้ำและป้องกันน้ำท่วม
- ระบบสื่อสารโทรคมนาคม อินเตอร์เนท และพัฒนาระบบขนส่งไปรษณีย์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
- ระบบกำจัดขยะ และรีไซเคิล ตามกระแส Eco-Friendly ที่ทั้งโลกร่วมกันรณรงค์
- ระบบคมนาคม ทางหลวง ถนน รถไฟ เครื่องบิน เรือ ก็พัฒนาปรับปรุงรูปโฉมให้ทันสมัยและทั่วถึง
ในความจริง เราอาจพบปัญหาบ้างในบางเรื่อง ตัวอย่างเช่น การรถไฟไทยที่เก่าแก่ แต่โครงการดีๆ กำลังพัฒนาอย่าง “รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน” ก็กำลังเร่งก่อสร้างตามแผนอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น หรือโครงการรถไฟฟ้าที่ทยอยเปิดตัวสถานีใหม่ๆ ก็ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางทั้งคนไทยและต่างชาติ ให้ง่ายและคล่องตัว
5. ระบบสาธารณสุขดีเยี่ยม
ไทยเลื่องชื่อด้านการแพทย์ จนเป็นที่ยอมรับในเวทีโลกมาช้านาน เพราะ มีระบบโรงพยาบาลที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน บุคลากรทางการแพทย์มีความสามารถสูง แถมยังอนุญาตให้ซื้อยาที่ร้านขายยาได้เองกรณีเจ็บป่วยเล็กน้อย โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา และมีเภสัชกรให้คำแนะนำที่ถูกต้อง
รวมถึงอีกหนึ่งผลงานสร้างชื่อปรากฎต่อสายตาโลก คือ การควบคุมโรคระบาดที่สาธารณสุขของไทยสามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้วก็ถือว่าสำเร็จทีเดียว
จึงยิ่งเป็นการเพิ่มคะแนนให้ชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อย ยอมบินมารักษาตัวที่ประเทศไทย เพื่อแลกกับการรักษามาตรฐานสากล การบริการ และราคาที่ประหยัดกว่า โดยเฉพาะวัยเกษียณที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์พยาบาล เลือกมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่นี่แทน
ไทยเลื่องชื่อด้านการแพทย์ ชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อย จึงเลือกมาใช้ชีวิตวัยเกษียณที่นี่แทน
6. ธรรมชาติสวยงาม
ทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งหมดของไทย ล้วนเป็นเสน่ห์ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ ทะเล ภูเขา น้ำตก วัดวาอาราม อาคารบ้านเมือง แหล่งท่องเที่ยว สตรีทฟู้ด ฯลฯ อีกทั้งแต่ละสถานที่หรือจังหวัด ยังสามารถเดินทางถึงกันไม่ไกลมากนัก จุดมุ่งหมายปลายทางจึงมีทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด ชาวต่างชาติจึงนิยมชมชอบการท่องเที่ยวแบบมีคุณภาพ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน หลากหลาย และพักผ่อนอย่างแท้จริง
7. ที่สุดงานบริการ
จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออย่างมาก จึงคลอบคลุมไปถึงธุรกิจแขนงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ได้มุ่งเน้นย้ำการบริการประทับใจเป็นสำคัญ ประหนึ่งการสร้าง Engagement ให้ลูกค้ากลับมาเยี่ยมเยือนบ่อยๆ ดังนั้นจึงคุ้มค่ากว่า…หากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะมีความคิดซื้อบ้านหลังที่ 2 ไว้ที่นี่
8. คุ้นเคยเชื้อสายจีน
คนไทยเชื้อสายจีนเรียกว่าเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดของประชากรทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ดังนั้น วัฒนธรรม อาหารการกิน ภาษา จึงสร้างความคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเป็นกลุ่มกำลังซื้อที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้เลือกประเทศไทยเป็นเป้าหมายแรก เพราะสามารถปรับตัวจากถิ่นที่อยู่อาศัยเดิมได้ไม่ยาก
9. นโยบายรัฐสนับสนุน
ในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ ประเทศไทยเปิดโอกาสการลงทุนของชาวต่างชาติเสมอ ดังเช่น อัตราส่วนกรรมสิทธิ์ 49%, การใช้วีซ่าท่องเที่ยวยื่นซื้อคอนโด, การโอนเงินตราต่างประเทศที่ไม่สลับซับซ้อน, การผลักดันสินเชื่อสำหรับชาวต่างชาติ ตลอดจนเอื้อหนุนการลงทุนขายต่อปล่อยเช่า ที่ผ่อนผันมากกว่าประเทศอื่นๆ
10. นวัตกรรมเดินหน้า
เมื่อหลายปัจจัยประกอบกัน เหล่าบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ของไทยจึงจัดเต็ม สร้างโครงการดีๆ ด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่แทรกอยู่ในรูปแบบห้องชุดและส่วนกลางโครงการ เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตของคนหลากหลายกลุ่มได้อย่างเหมาะสม ทั้งกลุ่มคนเมืองนักธุรกิจ (Gen X), กลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Millenial, Gen Z) และกลุ่มเกษียณ (Baby Boomer)
ชื่อเสียงที่อยู่อาศัยของไทยจึงอยู่ในชั้นแนวหน้า และยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน
ความเพียบพร้อมเหล่านี้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ ประเทศไทยยังคงตำแหน่งยืนหนึ่งได้อีกนาน